ค้นหาบล็อกนี้

วันจันทร์ที่ 20 ธันวาคม พ.ศ. 2553

ไป 3 ดอย + ง้อควายไปผาตั้ง - วันสุดท้ายละ จบเสียทีทริปนี้

อรุณสวัสดิ์ยามเช้า ผมตื่นมาเป็นคนแรกๆ อีกเช่นเคย ยังไม่ 06.00 น. เลย
ฟ้ายังมืดๆ ลุกมาฉี่ข้างๆเต๊นท์นั่นละ สะดวก ไม่ไกล รดน้ำต้นไม้ ฯลฯ
ตื่นมามองดูกองไฟ ท่ามกลางแสงอาทิตย์สลัวๆ ที่กำลังจะตื่นตามผมขึ้นมา
เห็นกองไข่อยู่ในกองไฟ แล้วก็พอเข้าใจ ว่า คงเกิดจากมัน ( ก็มันคนเดียวน่านแหละที่ทำแบบนั้ได้ )
เพราะสถานการณ์เรื่องไข่นี่ ผมหลับไปแล้ว


เดินป้วนเปี้ยนแถวรถ และ เต๊นท์สักพัก ลูกชายก็ตื่นขึ้นมา ลุกออกมาจากเต๊นท์ แล้วคนอื่นๆ ก็ค่อยทยอยตื่นขึ้นมา รับแสงอรุณด้วยกัน จุดเตาแก๊ส ( ก็เตาที่มันเผาเมื่อคืน ) ชงกาแฟกิน
เพื่อนอู๊ดวัดอุณหภูมิบนยอดหญ้าได้ 9-10 องศา. เย็นๆ สบายๆ ลมไม่แรงมาก


















- เต๊นท์เขียวๆ เทาๆ น่ะ ผมกะลูกชาย
- Property Perfect สีเขียวหลังใหญ่
- เต๊นท์บ้านพฤกษา อยู่ข้างๆ Property Perfect FlySheet ทำจากถุงปุ๋ย ถุงข้าวสาร นอน 3 คน พ่อแม่่ลูก
- เต๊นท์สีน้ำเงินเข้มของเพื่อนอู๊ด นอนเดี่ยว
- เต๊นท์สีฟ้าๆ ไม่รู้ของใคร หนุ่ม-สาว คู่นึง มาก่อนพวกเรา แต่กลับโดนพวกเราล้อมกรอบซะหมด
จนเขาไม่กล้าออกมา หรือ แม้แต่จะ......จึ๊ก..จึ๊ก...


เห็นหนุ่ม-สาว คู่นี้ แค่เพียงยามเช้า
เขารีบออกมาแล้วก็สลายไปกับฝูงคนที่มาดูพระัอาทิตย์ขึ้นยามเช้า ตรงใกล้ๆ ที่เรากางเต๊นท์กัน  - น่าสงสาร...555
หลังจากถ่ายรูปพระอาทิตย์ขึ้นยามเช้า โดยไม่มีทะเลหมอก ( ผิดหวังซ้ำซ้อน ทั้ง 3 ดอย ) ผมก็พาลูกเดินรอบๆบริเวณ แถวๆนั้นมีของขาย พวกผักเมืองหนาว โจ๊ก อาหารเช้า มันเผา รวมถึงของที่ระลึก

 มองไปอีกด้านของจุดชมวิว ก็เห็นเป็นบ้านเรือนชาวบ้าน ที่อยู่พื้นที่ราบ
แล้วก็เดินมันเรื่อยๆ ไปที่ทางเดินศึกษาธรรมชาติ


เดินท่า่มกลางซากุระไทย ได้เห็นมุมใหม่ๆ หุบเขา แล้วก็หน้าผาสูง


สมาชิก ที่เดินตามกันมาติดๆ ลูกชาย กับลูกเพื่อนพงศ์
เดินกันไปจนสุดทาง ที่เป็นหุบเขา แล้วก็กลับ อากาศดี สดชื่น



มองไปทางแนวเขา ก็เห็นซากุระไทย บานสะพรั่ง สีมันสด ตัดกับสีเขียวของต้นไม้ เลยทำให้ดูสวย
แล้วก็ ต้นที่เรากางเต๊นท์นอนใต้ต้นซากุระไทย ตื่นมาได้บรรยากาศ
ยามเช้า ระหว่างที่คุยกันตามประสาเพื่อนๆ เราเกริ่นกันถึงปีหน้า เพื่อนอู๊ดอยากขับไปนอกประเทศ อาจจะ แนวๆ ลาว เวียดนาม
เพื่อนควายเสนอไปไกลกว่านั้นอีก...แต่โดนเบรคก่อนว่า ดอยผาตั้ัง ยังไม่ไป เมิงจะไปไหนอีก...555


สายๆ ก็เตรียมตัวเก็บข้าวของ พร้อมเดินทางกลับ
ก่อนกลับ ลงจากจุดกางเต๊นท์นิดหน่อย เพื่อนๆ ชวนแวะสวนพืชฯ ( ชื่อเต็มจำไม่ได้จริงๆ )
ก่อนเข้าไป ก็มีเสียง ว. มาถาม มีแต่ผม ที่บอกไปว่า "ยังไงก็ได้ แต่ผมไม่ชอบแบบมนุษย์สังเคราะห์"
ความหมายคือ ผมมักจะไม่ค่อยสนใจกับพวกสวนดอกไม้ หรือ สิ่งที่มนุษย์สร้างเท่าไรนัก
ด้วยความที่คิดในใจ สวนหลวง ร. 9 ก็มีนี่นา......555

แล้วเพื่อนควาย ก็หายตัวไปอีกครั้ง ทุกคันจ่าย 50 บาท เข้าสวนพืชฯ กันหมด
ผมโทรฯถาม คำตอบคือ "กูอยู่ข้างนอก ตรงโรงเรียน เนี่ยกะลังจะจอดเข้าห้องน้ำ"
"เฮ๊ย! เข้ามาข้างใน ห้องน้ำสะอาด อากาศดี" ผมตอบไปตามจริง เพราะ สะอาดมาก ต้องเปลี่ยนรองเท้าเข้าห้องน้ำ ขนาดผมยังอาบน้ำ สระผม แม้จะหนาวเหน็บ - ขอโทษ ผมสระผมทุกเช้า แม้จะอยู่บนดอย !!


รอแล้ว รอเล่า เพื่อนควายก็ยังไม่เข้ามา เราเลยตัดสินใจกันว่า เราก็ไปเท่าที่เราจะไป เพราะต้องเดินทางอีกไกล กลับ กทม.
ออกจากสวนพืชฯ เราเกือบทุกคัน ( ก็ยกเว้นเพื่อนควายน่านละ ) ต่างขับรถกลับตามเส้นทาง อ. ไชยปราการ อ.เชียงดาว อ.แม่แตง อ.แม่ริม เข้า จ.เชียงใหม่ จ.ลำพูน จ.ลำปาง อ.เถิน จ.ตาก
อ้อ เฮียปอขอตัว แยกย้ายไปหาเพื่อนก่อนที่ เชียงใหม่ ตอนนี้ ในขบวน เหลือ
G-Wagon , D-Max , Ford & Caribian ทั้งหมด 4 คัน


ระหว่างทางจะเข้าตาก ถนนกำลังทำ และไม่ค่อยดีนัก ใครสักคน บ่นออกมา
"ไอ้ควายขามา มันมาเส้นนี้ มันไม่บอกวะ ว่าถนนห่วยขนาดนี้ จะได้วิ่งทางอื่น"
อ้าว ยังไปเหน็บมันอีก มันไม่ได้ร่วมเส้นทางแล้วนะเนี่ย !!!
อ้อ...เพื่อนอู๊ดโทรไปหามัน ได้ความว่า มันลงทางเชียงดาว เขาโคตรสูง...555...
"เมียด่าแหงๆๆ" ผมคิดในใจ

ก่อนถึงจ.ตาก น้องสะใภ้ผมโทรมาบอกว่า แม่ไม่สบายอยู่ รพ. เข้าตั้งแต่วันที่ 5 แล้ว
ผมเลย ต้องขอตัวเพื่อนๆ ขอสลายตัวไปก่อนหลังกินข้าวเย็นพร้อมกัน
คืนผ้าห่มให้เพื่อนพงศ์ (ไม่มีบ้านนี้ ผมกะลูกคงหนาว ตัวตั้งแข็งเป๊ก )
คืน ว. ดำ ให้เพื่อนอู๊ด ( หัวหน้าทีม ยุกุจัง ให้ซื้อรถขับเคลื่อน 4 ล้อ )
อิ่มท้องแล้ว ก็ใส่ยาวๆ เข้า นครสวรรค์ ไปเยี่ยมแม่

ถึงราวๆ 21.00 เห็นหน้าสัก 30 นาที ก็รีบกลับ กทม.
แค่นี้ แม่ก็มีกำลังใจแล้ว ได้เจอลูก กะ หลาน ในสภาพ มอมแมม แบบนี้
แต่บนใบหน้า มีแต่ความสุขกัน ทั้ง แม่ ลูก หลานชาย