ค้นหาบล็อกนี้

วันจันทร์ที่ 31 มกราคม พ.ศ. 2554

Eric Clapton – กับคืนที่อดีตหวนกลับ

Eric Clapton – กับคืนที่อดีตหวนกลับ

คืนวันที่ 30 มกราคม 2011 นั่งอยู่ที่ โรงแรมแห่งหนึ่ง บรรยากาศดีมาก มีสระน้ำขนาดใหญ่ มุมหนึ่งของสระน้ำ มีเวทีขนาดไม่ใหญ่มาก แบบเลื่อนได้
นั่งดื่มอะไรเพลินๆได้สักพัก เวทีก็เลื่อนมาอยู่บนสระน้ำ  พอเวทีเลื่อนมา จากจุดที่ผมนั่งริมสระธรรมดา ก็เลย กลายเป็นนั่งกันใกล้เวทีไปโดยปริยาย
สักพัก นักดนตรีก็ออกมา พร้อม Acoustic Guitar คู่ใจ
หน้าตาคุ้นๆ ผมจำเขาได้ เป็นอย่างดี เขาคนนี้เป็นหนึ่งในนักดนตรี ที่อยู่ในใจผมมานานนับสิบปี
Eric Clapton เฮ๊ย...อีกตั้งหลายวันนี่นา กว่าจะมี Concert เขาที่ Impact Arena : Bangkok เกิดอะไรขึ้น !!
นั่งฟังไปได้สักพัก Clapton เดินลงมา เอากระดาษให้ผม 1 แผ่น เป็นกระดาษเก่าๆ แต่ก็พอดูออกว่าเป็นปกสมุด สีเหลือง ในนั้น เป็นลายมือผม ซึ่งเขียนชื่อตัวเอง
ผมใช้เวลานึกเพียงครู่เดียว ก็จำได้
นั่นเป็นกระดาษปกสมุดเรียนของผม สมัยเรียน ป.4 เพราะมันมี ชื่อ และ ชั้นเรียน ป.4/6 ระบุอยู่ในนั้น แล้วลายมือ ก็เป็นลายมือผม สมัยเด็กๆ นั่นจริงๆ ผมจำได้!!
เกิดอะไรขึ้นครับคุณ Clapton
เมื่อตั้งสติได้ ผมเลยถามกลับไปว่า คุณได้กระดาษนี้มาได้ยังไง แน่นอนครับ ต้องถามเป็นภาษาอังกฤษซีครับ 
แกไม่ตอบทันที แต่ยิ้มให้ แล้วตอบว่า เพื่อน สั้นๆ ภาษาไทยครับ งงซีครับ สำเนียงแม้ไม่ชัดเท่าไร แต่ก็ฟังออก
Eric Clapton ผู้ที่ผมเคยใช้มีดสลักบนโต๊ะเรียนหลายๆตัว ตอนสมัย ม.ปลายว่า “Clapton is God” ตามวัยรุ่นอังกฤษในสมัยนั้น ตอบผมเป็นภาษาไทยเฉยเลย
นอกจากที่ผมจะสลักคำว่า “Clapton is God” ผมยังคลั่งขนาด สั่งตัดรองเท้าแบบเดียวกับที่ Clapton ใส่ ภาพจากปกด้านในของชุด Journey Man  
เอ่อ...รวมถึงทรงผมแบบ Clapton ด้วย
Clapton ปล่อยให้ผมมึนงง กับคำตอบเป็นภาษาไทย แล้วพี่แกก็กลับไปร้องเพลงต่อหน้าตาเฉย
ร้องต่อไปอีกไม่กี่เพลง พี่แกเดินมาหาผมอีกครับ
คราวนี้ เดินเอากระเป๋ามา แล้วให้บอกผมหยิบของข้างใน
พระเจ้า !! รู้ไหมว่า ของที่ผมหยิบขั้นมามันเป็นอะไร
มันเป็นของที่ผมตามหามานานแสนนาน
รูปครับ เป็นรูปของเด็กผู้หญิงคนหนึ่ง รูปที่ฉากหลังเป็นสีดำๆ มีเด็กหญิงคนหนึ่ง นั่งใส่เสื้อผ้าแบบสบายๆ
เด็กผู้หญิงคนนี้ เคยเป็น Puppy Love สมัยผมเป็นเด็กๆวัยละอ่อน
ผมถาม Clapton กลับไปอีก แปลเป็นไทยว่า  
เพ่...เอารูปนี้มาจากไหน รู้ไหมว่า ผมตามหามานานมากเลย ... เฮ๊...จะไปไหน ขอร้อง บอกผมหน่อยเถอะ”
แกไม่ตอบ กลับเดินไปเล่นดนตรีของแกแบบเต็ม Band กับเพลง Old Love
โดยเฉพาะ ท่อนนี้ ที่โดนใจเหลือเกินครับ

Why can't I get over?
ทำไม ถึงขจัดมันออกไปไม่ได้หมดเสียที
When will I ever learn?
อีกเมื่อไรหนอ ถึงจะได้เรียนรู้มันใหม่

“Clapton is God” คำนี้แหละ ที่ผมยังคงย้ำกับตัวเองอีกครั้ง และหลายครั้ง ในค่ำคืนนี้

วันพฤหัสบดีที่ 27 มกราคม พ.ศ. 2554

เกาะราชา - การร่ำลาจากท้องทะเลภูเก็ต [ ชั่วคราว ]

เกิดจากอาการ หิวโหย และ โหยหา อยากโดดน้ำทะเล
เพราะไม่ได้เสพน้ำทะเล แบบ... โดดลงไปทั้งตัวแบบนี้มานานหลายเดือน
นานเกินไปสำหรับตัวผม

ได้จังหวะ โอกาสเหมาะก็ไปที่เดิมครับ ภูเก็ต
เนื่องจากปัจจัยหลายๆอย่างที่เอื้ออำนวยสำหรับ นักท่องเที่ยว โดยเฉพาะ
คนที่ชอบเดินทางคนเดียวแบบผม
ก็คิดๆอยู่ รวมถึงหาข้อมูลจากบางเกาะของภูเก็ตที่ยังไม่เคยไป
สุดท้ายก็ได้ลงตัว ที่เกาะราชา
เพราะ ว่ากันว่า สวย !! ก็ไอ้คำนี้แหละ ที่ผมลืมไป ว่า มาตรฐานแต่ละคน ต่างกัน !!
เอาวะ ว่ากันว่า สวย ก็ไปดู ไม่ยากอะไรนี่นา
โทรฯจองเรือ ให้รถตู้มารับ ตามกำหนดเวลา แล้วก็ตระเวณรับคนจากที่ต่างๆ จนมาถึงข้างๆท่าเรืออ่าวฉลอง เพราะ ว่า ต้อง Join กับ กลุ่มอื่นๆ ที่รถตู้ คันอื่นๆ ตระเวณรับนักท่องเที่ยว
ถึงเวลาเรือก็ออก ราวๆ 09.00 น. คงต้องข้ามเรื่องเวลาไปบ้าง
เพราะไปแบบนี้ มีแต่ตัวกับกล้องเท่านั้น ที่ต้องการ
เรือ Speed Boat ก็พาไปเกาะต่างๆ ที่แรก Coral Island
เรือมาปล่อยทิ้งไว้ ราว 1 ชั่วโมงครึ่ง แล้วเรือก็ (เดาว่า ) คงออกไปรับคณะอื่น
เพื่อเดินทางแล้วพาไปทิ้งไว้ที่เกาะอื่น เหมือนที่ทำกับคณะที่ผมเดินทางมาด้วย
อะไรกันวะเนี่ย..!! แล้วที่นี่มีอะไร ?
น้ำทะเลใสๆ หาดขาวๆ ที่หลายคนเห็นแล้วก็ ดีใจ ตื่นเต้น ราวกับเห็นนางสาวไทยใส่ชุด 2 Piece

สำหรับผมแล้ว การเห็นน้ำทะเลใสๆ เป็นความสุขครับ แต่ดันเสือกคาดหวังไว้สูงกว่านั้น
เพราะไปแล้วเจอแค่น้ำใสๆแบบนี้ เกาะไข่ หรือ เกาะใกล้ๆ ก็มีครับ  !!
แต่ไม่เป็นไร เกาะต่อไป "เกาะราชา หรือ เกาะรายา" น่าจะมีอะไรดีสมใจละ
ตอนนี้ ก็พักผ่อนที่เกาะนี้ไปก่อน ด้วยเก้าอี้ชายหาด ใต้ร่มไม้
80 บาท ครับ อย่าคิดว่าฟรี หรือ รวมในค่าเรือ ล่ะ...จ่ายมาซะดีๆ...
นั่งพักไปก็ เบื่อครับ เบื่อ พวกนกไซบีเรียหนีหนาวมาจากเมืองจีน
ก็พวกคนจีน มาเป็นกลุ่ม เป็นคณะ ส่งเสียง ล๊งเล่ง เจี๊ยวจ๊าว
และที่สำคัญ สาวๆ (แก่ๆ อ้วนๆ แนว อาซิ๊ม) แกมีอุปกรณ์ประจำกายครับ ***
พวกสาวๆ เขาเอาผ้าแบบพริ้วๆ ผืนใหญ่ๆ มาเพื่อโพสท่าถ่ายรูปกับชายหาดที่นี่ครับ
 โอว... ถ้าสาวๆ หุ่นดีๆ ผมคงคิดว่า นี่มีการถ่ายแบบกันแน่ๆ
แต่ละท่า ที่โพสกัน บาดหัวใจชายโสดดีแท้ ประหนึ่งฝึกมาอย่างดี
คราวหน้า ผมคงต้องเตรียมผ้าแบบนี้มาโพส ถ่ายรูปกะเขามั่ง
อ้อ...ต้องไม่ลืม ขาตั้งกล้องด้วย - ก็ใครจะถ่ายให้เมิงล่ะ.....

นั่งเบื่อๆ นางแบบจากไซบีเรีย ก็เดินเล่นไปริมสุดหาด ดูหิน ดูปู ดู......ก็ว่ากันไป @>|<@
ราว 11:30 น. ได้เวลา  เดินทางต่อไป เกาะราชา เพื่อกินข้าวเที่ยง แล้ว พักผ่อนตามอัธยาศัย
น้ำทะเล ยังคงใส สวยงามอย่างที่รู้ๆกัน หาดทรายที่นี่กว้าง และเป็นเวิ้งอ่าว
ทำให้ดูสวยงามกว่า Coral Island ที่สำคัญ มีสะพานพลาสติก ลอยตัวอยู่ เป็น Logo ของเกาะนี้เลย
นี่เป็น Idea ที่ดีเลย สวยงามและมีประโยชน์ ... แฟ้มบุคคล ขอปรบมือให้ !!!
สะพานนี้ ใช้เป็นท่าเทียบเรือ เพื่อที่เรือจะได้ไม่ต้องเข้ามาถึงหาด
และใบพัดก็จะไม่ทำให้ทรายฟุ้งกระจาย น้ำจะยังคงใส ตลอดเวลา
มาถึงเกาะราชา ก็เดินครับ ไปไกลหน่อย เพื่อกินข้าวเที่ยง
ร้อนใช้ได้เชียว อืม...เดินไกลๆ แบบนี้ อาหารคงอร่อย ( เพราะหิว และ เหนื่อย )
ข้ามเรื่องอาหารการกินไปเลย บอกได้แค่ผิดหวังมาก ร้านผัดไท (มั้ง)
ชื่อร้านยังไม่อยากจำเลย อยู่ทะเล แต่ได้กิน
หอมใหญ่ชุบแป้งทอด ที่ทำให้คล้ายหมึกชุบแป้งทอด
แครอทชุบแป้งทอด ที่ทำให้คล้ายกุ้งชุบแป้งทอด
ลืมๆ มันไปบ้างก็ดี เรื่องไม่ค่อยดี ๆไม่ค่อยประทับใจนี่ อยู่กับทะเลดีกว่า
เกาะนี้ มีเก้าอี้ชายหาด (เก็บเงินครับ!!) ต้องเดินหาร่มไม้เอาเอง
หากคนเยอะ อาจแย่งๆ เบียดๆ กันอาศัยร่มเงาต้นไม้ หรือไม่ก็ลงทะเลไปเลย

เกาะนี้ เริ่มมี Resort ตั้งริมหาดกันมากขึ้น รวมทั้ง บางแห่งระบุเลยครับว่า
"Entrance Fee 500 Baht" เหี้ยมเกรียมไหมล่ะครับ !!
ก็อยากจะหลงรักเกาะนี้หรอกครับ แต่ทำแบบนี้ มันทำใจยาก
เดินหาร่มไม้ ได้มุมหาด ติดเขา และ ลูกมะพร้าว พักท้องให้หายอิ่ม กับอาหารแสนอร่อย
เดินลงน้ำ แช่น้ำเล่น สบายๆ ให้แดดแผดเผา
เจอไอ้หนุ่มน้อย Fernando Torres มาเล่นน้ำ โดยมีพ่อแม่อยู่ใกล้ๆ
เด็กนี่มันหน้าตาสดใสดีจริง แก่ๆ ก็คงเหี่ยวอย่างเรา..เฮ๊อ...
บ่ายโมงกว่าๆ เรือกลับมารับ เพื่อที่จะไปอีกด้านของเกาะ คราวนี้คงได้ลงน้ำให้หายอยากบ้างละ
ดูจากเวลา น่าจะให้เราลงน้ำอยู่ราวๆ 1 ชั่วโมง
มาถึงเรือก็จอด เกาะทุ่นลอยไว้ ได้เวลา โดด!!
ลงมาในน้ำ ก็ผิดหวังอีก เมื่อเจอแต่ปะการังแข็ง เต็มท้องทะเลแถบนี้
ก็ดันคาดหวังไว้สูง ว่าจะสวยงามเหมือนที่คนเขาว่ากัน
มันก็สวยในแบบของแต่ละคน แต่ละมุมมอง
คิดถึง ทะเลตรังจังเลย ...
ก็เล็งๆไว้ ว่าลงทะเลทีไร จะต้องข้างขึ้น น้ำเลยใสหน่อย
ก็ถือว่า เป็นการพักผ่อนแบบสบายๆ ไม่ต้องไปซีเรียส
แล้วก็คงหมดแหล่งที่้จะลงทะเลภูเก็ตละ เพราะก็คงจะเจอแต่แนวๆนี้
หรือต้องหาเวลาไป Scuba Dive ก็ยังไม่รู้ว่า เมื่อไร เพราะ โครงการ Paramotor ก็ยังยั่วใจอยู่

กลับจากเกาะราชา รอบนี้ ในหัวก็มีโครงการ ทะเลตรัง มาโดยเร็วเชียว
คิดถึงเมืองตรัง ทะเลตรัง เดือนมีนาคม จะไปหานะจ๊ะ...
สองวันผ่านไป แสบหน้า แสบแขน ตามด้วยอาการลอกของผิว
ประหนึ่งงูลอกคราบ แถม อาการคันคะเยอ ก็มีให้เหมือนทุกครั้งที่ โดดลงทะเล
3-4 ปี นี้ ลงทีไร เป็นอย่างนี้ทู๊ก....ที

วันเสาร์ที่ 15 มกราคม พ.ศ. 2554

Yahoo! รู้รอบ หรือ Yahoo! มิตรสัมพันธ์ ?

ก็ใช้เวลาคิดอยู่นานเหมือนกัน ว่า จะพล่ามถึงเรื่องนี้ดีไหม
ก็พยายามเฝ้าดู ศึกษา วิถีของ Yahoo! รู้รอบ ให้มากขึ้น หวังว่า จะกระจ่างขึ้น


แรกเริ่ม ผมเข้ามาสู่ชุมชนแห่งนี้ เพราะ คำว่าYahoo! รู้รอบ [ผมเริ่มเข้ามาปี 2008]
ผมหวังมาหาความรู้ จากกลุ่มผู้คนหลากหลายอาชีพ ที่ไม่ต้องแสดงตัวตนก็ได้
ชี้แนะ ให้คำแนะนำ ความรู้ ที่ไม่แน่ใจหรอกว่า ถูก หรือ ไม่
(เพราะผมเอง เชื่อว่า ถูก - ผิด สำหรับคนนึง ไม่สามารถ มาใช้กับอีกคนได้ทั้ง 100% หรอก)

แล้วพออยู่ในชุมชนนี้ ก็ไม่ค่อยได้ถามอะไรมากหรอก
เฝ้าอ่านคำถามที่คนถาม หาความรู้

อ่านๆ ไป ก็ พบว่า มันแปลกๆยังไงไม่รู้ กะคำว่า "รู้รอบ"
มีแต่คำถามแนว ความรู้สึก แนวประโลมโลก

คำถามแนวอะไรก็ไม่รู้ ที่(ผมรู้สึกว่า)มันไม่ใช่ความรู้ อย่างที่เราคาดหวังไว้

แม้จะพยายามรณรงค์ คำถาม คำตอบที่มีประโยชน์ ด้วยการใส่คำรณรงค์ ต่อท้าย คำตอบ
แต่ก็ไม่รู้จะมีผลอะไรไหม หรือ จะมีใครรู้สึกไหม ว่า ต้องเปลี่ยนด้วยคนในชุมชนนี้เอง

คนเก่าๆ บางคน บ้างก็ เหนื่อยหน่าย ไม่มีเวลา หรือเห็นว่าไม่เหมาะกับตัวเอง ก็หายๆไป
บางคน ก็ยังอยู่อย่างยืนยาว ยอมรับกับสภาพที่เป็นอยู่ ซึ่งจะว่าไปมันก็ไม่ได้เลวร้ายอะไรนักหนา
กับการมีคำถามสั่วๆ ไม่เข้าท่า มากหน่อย
ก็ไม่เคยมาจับสถิติ หรือ แยกแยะอะไรหรอก
เพราะบางคนก็มองว่า ไอ้คำถาม สั่วๆ ที่ผมพูดถึง มันอาจจะไม่สั่ว สำหรับเขาก็ได้
ผมเอง ก็แค่หวังว่า ลูกหลานจะได้มีเวป ที่เป็นพื้นฐานความรู้ที่ดีบ้าง...ก็เท่านั้นเอง

เพราะฉะนั้น ผมก็เลยมีความคิดในแบบเดิมๆ คือ
"ไม่ชอบก็ต่างคนต่างอยู่"

เพราะคำถามสุดท้าย ที่ถามไป มีคนตอบแค่ 2 คน แล้ว ตอบแบบไม่ใช่คำตอบ
สังคม Yahoo! รู้รอบ ไม่ใช่แบบชื่อนี้แล้ว (คือ มันก็ไม่ใช่มานานแล้วละ)
คำถามดีๆ คำตอบดีๆ ก็มีเยอะ แต่ สัดส่วนมันไม่ใช่อย่างที่ผมหวัง

เหมือนกับเราอยากกินแกงไก่ใส่มะเขือ กลับ เจอแกงมะเขือใส่ไก่...555
แล้วสำหรับผม โดยส่วนตัว คงจะลืม และ ลบ ชื่อ Yahoo!รู้รอบ ออกจากหัว
นับจากวันนี้ ผมจะมีแค่้ Yahoo! มิตรสัมพันธ์


ให้ชุมชนนี้ มีมิตรผ่านทางเวปบอร์ดที่มีฉากว่า รู้รอบ ต่อไป
เพราะโลกนี้เสรี (แต่เปลี่ยนชื่อไปเลยก็ดีนะ...555)

วันพฤหัสบดีที่ 6 มกราคม พ.ศ. 2554

วันแรกของพ่อลูก ในปี 2011

ระยะหลังๆ ผมจะนัดลูกชายกินข้าวเย็นกันทุกวันพุธ เพราะอะไรน่ะหรอ ?
เขาโตมากขึ้น อยู่ ป.6 แล้ว ก็เลย อยากมีโอกาส มีเวลาอยู่กับเขาให้มากขึ้น
แทนที่จะมีเวลาเพียงแค่เสาร์ - อาทิตย์ เท่านั้น !!!

เขาเริ่มโต เรายิ่งต้องให้ข้อคิด คำแนะนำ เพื่อที่เขาโตขึ้นไป จะได้มีมุมมองที่ได้ถูกกลั่นกรองแล้ว จากพ่อ
เมื่อเขาโตขึ้นไปอีก เขาจะให้เวลากับเพื่อนมากขึ้น - เรื่องนี้ บอกกับลูกให้เขาเข้าใจแล้ว เขาจะได้ไม่ต้องพะวง ว่า พ่อจะเสียใจ หรือ คิดมาก เมื่อพ่อไม่ค่อยได้เจอเขาตามเวลาปกติ
สำหรับผม - เริ่มรับ และปรับตัวได้แล้ว แม้จะเหงา ในเสาร์-อาทิตย์ที่ไม่มีลูกบ้าง

พุธนี้ก็เช่นกัน (พุธที่ 5 มกราคม 2554) พ่อก็ยังคงไปรับลูกชาย ไปกินข้าวเหมือนเดิม
วันนี้พาเขาไปเดินดูของตกแต่งบ้าน บอกเขาว่า พ่อมีไอเดีย อยากทำอะไร
แม้บางเรื่อง อาจจะยากเกินเด็กเข้าใจ แต่ อย่างน้อย ก็เป็นพื้นฐานให้เขาได้
ลูกชายเริ่มใส่แว่นจนติดบ้างแล้ว ก็กังวลอยู่เหมือนกัน ว่า เขาจะทำหาย หรือ พังไปซะก่อน
เพราะพ่อก็เคยใส่ สุดท้าย นั่งทับพัง !!!
หลังจากเดินดูของตบแต่งบ้านเสร็จ อยากกินติ่มซำมานานละ วันนี้เจอแฮะ แต่เข้าไปแล้ว .. ของหมด!!
อดแด.....ก....เลยตรู....
ไม่เป็นไร ขับรถไปหากินที่อื่นก็ได้(วะ)
สุดท้ายก็เล่นก๋วยเตี๋ยวต้มยำ ลูกเล่นข้าวหน้าไก่ + ซาละเปา 3 ลูก
มันเริ่มกินจุแฮะ...
ช่วงเดินย่อยอาหาร และรอแม่เขามารับ ก็ไปเจอ ete' IceCream เดินผ่านรอบแรก ก็เฉยๆ ดูเมนู ไม่มีอะไรน่าสนใจ เดินไป เดินมา อีกรอบ ก็เจอป้าย ete' อีกป้าย
แต่คราวนี้ น่าสนใจ เขาเรียกว่าอะไรไม่รู้ "สนใจไหมลูก"
ลูกชายพยักหน้า เป็นคำตอบ
มันเป็นเหมือนน้ำกาแฟ ที่มีไอติม 1 ลูก โปะอยู่ข้างบน
ของลูกก็เป็น น้ำช็อกโกแลต ตามไอติมที่สั่ง
เล่นไปคนละแก้ว อร่อยถูกใจ

แล้วก็ตกลงกันว่า เราจะมากินแบบอื่นๆกันใหม่ อีกไม่นานหรอก........

วันพุธที่ 5 มกราคม พ.ศ. 2554

พร่ำ-บ่น บนเส้นทางเขาหลัก พังงา

Blog แรกของปี ก็คงเป็นการร่ายไปเรื่อยๆ ไม่มีประเด็นหลักอะไรที่ตายตัว
จุดเริ่มของมัน ก็คงเป็น จังหวะที่ว่าง และ คิดอะำไรเรื่อยเปื่อย ระหว่างการเดินทาง คนเดียว
โดยไม่มีกำหนดอะไรมากมาย ตายตัวนัก
เดินทางโดยรถโดยสารจากจังหวัด สู่อำเภอ / จากอำเภอ สู่ อำเภอ สู่ หมู่บ้าน
เส้นทางที่ด้านหนึ่งเป็นภูเขา ด้านหนึ่งเป็นหาดทราย
นั่งรถไป ก็ใจลอย คิดไปเรื่อยเปื่อย

บนเส้นทางเขาหลัก - ตะกั่วป่า 

คิดทบทวนเรื่อง 1 ปี ที่ผ่านมา ว่าเจอทำอะไรไม่ดี ต้องเดินต่อไปในทิศทางไหน
เอาเป็นว่า เริ่มจาก คำของหัวเรื่องของ Blog นี้ "World of Dream : Over ?"
คือ ความตั้งใจเดิม คือ เราคิดว่า โลกนี้ มีอะไรที่น่าฝันถึง น่าไปหา น่าค้นคว้า ฯลฯ
เพียงแต่เราไปจำกัดตัวเราเองมานาน อาจจะ ด้วยสภาพแวดล้อม การงาน เงิน ที่ทำให้เราไปไม่ได้อย่างที่ฝันในแบบที่จะไป อาจจะขัดแย้งกับเพลงนึงที่ ร้องว่า "อยู่กับสิ่งที่มี ไม่ใช่สิ่งที่ฝัน"
ในบางจังหวะชีวิต อยู่กับสิ่งที่มีไม่ได้ตลอดหรอก เราจะกลายเป็นคนโลกแคบไป

และเมื่อวันหนึ่ง พร้อม !
ก็จะไปในที่ๆอยากจะไป ถ้าโอกาสมี หรือ อาจจะหาโอกาสด้วย ในบางครั้ง
โลกนี้ มีอะไรน่าค้นหาเยอะแยะ

เหลือบตาเห็น McDonald เขาหลัก...อืม...ยังมีให้บริการนักท่องเที่ยวถึงที่นี่
เขาหลักยังสงบ ตามพื้นที่ ... ที่นี่ ... พังงา
แต่ครึกครื้นกว่า เกือบยี่สิบปีก่อนมาก ที่นั่งรถผ่านมา แทบไม่รู้ว่าถึงแล้ว
 ภาพจากกระท่อมเขาหลัก รีสอร์ท - ฉกมา - ไม่ได้ขอก่อน

ภาพจาก Palm Galleria Resort - ฉกมา - ไม่ได้ขอก่อน

ก็แค่แอบหลงรัก เขาหลัก หวังว่าอีกไม่นาน คงมีโอกาสได้ไป
หรืออาจจะ มกราคม นี้เลย ก็เป็นได้
ขึ้นๆ ลงๆ กทม. - ภูเก็ต , กทม. - พังงา เป็นว่าเล่น ก็สนุกดี
ดูๆแล้ว ทริปต่อไป คงเป็น เกาะราชา เกาะเฮ
ส่วนเขาหลัก อาจจะ สงกรานต์ ที่เหมือน น้องๆ ที่ทำงานเก่า จะนัดไว้กลายๆ

ข้ามผ่านเรื่องทะเล
----------------------------------------------

มาเรื่องการเมืองบ้างนิดหน่อย พอแค่ระบายความขุ่น ( หรือ สร้างความขุ่นกันแน่ )
เมื่อการเมืองมาถึงจุดที่แบ่งแยก
แบ่งกันด้วยสี
ด้วยความเชื่อ
ด้วยอิทธิพลรอบข้าง
ด้วยการโน้มน้าว
ด้วยบุญคุณ
และ... ด้วยความเขลา ของการแบ่งแยกในหัวของคน
ก็เลยทำให้คนที่รู้จักกันแบบเบาๆ ได้รู้จักกันมากขึ้น และ บางคน เกลียดกันมากขึ้น
เป็นไปได้ !!!

ไม่มีอะไร ข้างไหน ถูก และ ผิด อย่างเต็มประตู
แต่สิ่งที่ต้องรับโทษ คือ บ้านเมือง ประเทศของเราเอง ที่ต้องมารับเคราะห์
ประเทศ เดินต่อไม่ได้
นักลงทุน หายหัว
สุดท้าย เศรษฐกิจชาติ ก็พินาศ แล้ว ก็ บอกว่้่า เพราะการเมือง
คำตอบ และ ต้นเหตุจริงๆ อยู่ที่ "มึงน่านแหละ!!" ที่เขลา และ แบ่งแยกอย่างไร้สติ

----------------------------------------------

เรื่องงาน ( พอพิมพ์ไปแล้ว รู้สึกเหมือนเขียนดวง ยังไงไม่รู้ ประมาณว่า การงาน ความรัก "โทรหา ปู หรือ เทพธิดา พยากรณ์ ซิคะ ... :-)
ภาพรวมของงานที่ผ่านมา ค่อนข้างดี ปริมาณงานมากขึ้นราว 20%
นั่นหมายความว่า รายได้ ย่อมมากขึ้นด้วยในสัดส่วนที่มากกว่า 20% 
แต่ทำไม ลูกน้องกรู ได้โบนัสน้อยลงวะ ! เชี่ย....


งานที่ท้าทาย เครื่องจักร
หนักๆ ใหญ่ๆ ยังมีมาเรื่อยๆ

แต่ทำไม ต้นปี 2011 นี้
ถึงรู้สึก เนือยๆ ไม่มีไฟเอาเสียเลย

อยากเล่นของหนักๆ แบบสาหัสกว่านี้
มันท้าทาย
มันจูงใจ
มันอันตราย
มันเสี่ยง
แต่ก็อยากทำ

อยากเรียนรู้กับมัน
บทเรียนแบบนี้ ไม่มีใครสอนได้เลย
ต้องเรียนรู้ + ประสบการณ์

วันนึง ก็อยากเป็น เบอร์ 1 ในสายงานนี้เหมือนกัน

ไม่เก่ง ไม่ชอบคำนวน
แต่กลับมาชอบงานที่ต้องคำนวน

มันสนุกตรงที่ ได้เรียน ได้อธิบาย ให้คนที่้ทำงานด้วย หรือลูกค้าได้ฟัง
ว่างานแบบนี้ ต้องดูอะไรบ้าง
ต้องเตรียมอะไรบ้าง

งานสาหัสขึ้น แต่รายได้เหมือนเดิมนะจ๊ะ  ... 555 ...

งานแบบนี้ ทำงานด้วยชื่อเสียงของตัวเราอย่างเดียวไม่ได้นี่นา ....

----------------------------------------------

ท่องเที่ยวไป ตามใจ และ โอกาส
ปีนี้ คงเดินทางไปเที่ยวตามสถานที่ต่างๆ ที่เป็นธรรมชาติของเมืองไทยมากกว่าปีที่ผ่านมา
คงเพราะเสพติด มาตั้งแต่ปลายปีที่แล้ว 
สารความสุข ความสมบุกสมบัน ตกค้างข้ามปี 
ทำให้ปีนี้ คึกคัก กับการวางแผนตัวเอง ที่จะเที่ยว (ลางานด้วยแหละ) มีมากขึ้น
ก็นั่งโยกเก้าอี้เฉยๆ มันเบื่อ !!!

  05 มกราคม 2011 - อู้งานมาเขียน