ค้นหาบล็อกนี้

วันศุกร์ที่ 25 มกราคม พ.ศ. 2556

พิสูจน์ไม้ - พิสูจน์คน ผ่านเรื่องราวของ IPPC ภาค 2

19 January 2013
วันที่ 19 นี้ ผมล้าครับ ขอลาหยุดพักร้อนสักเสาร์นึงเถอะ ปวดหัวมา 3 วันติดๆ มันมากเกินไปและ
และวันนี้ ผมมีหน้าที่ ต้องพิสูจน์คน ตั้งแต่เช้า



พิสูจน์คน ?? ด้วยความเป็น Single Dad หลายคน มันจะมองว่า
มันจะเป็นคนดีหรือ ??
มันไว้ใจได้หรือ ??
มันคือ ปีศาจ ?? .... ฯลฯ  
ดังนั้น ผมจึงต้องมีหน้าที่แสดงตัวตน เพื่อไม่ให้คนตัดสินผม จากการที่ไม่เคยเจอมาก่อน แล้วบอกว่า เราคือ "ปีศาจ" ไม่น่าที่จะเรียนรู้ หรือ อยู่ใกล้ด้วย
เรื่องพิสูจน์คน ค่อยมาว่ากันต่อ

สายๆ ชาวญี่ปุ่นส่งเสียงมา บอกว่า ให้แก้ไข Fumigated Cert. สำหรับ Shipment ที่ยังลอยอยู่ในทะเล
เตรียมที่จะเข้าท่า Houston USA
ซึ่งข้อเสนอนี้ ผมเสนอไปตั้งแต่วันแรกที่รู้ว่า ตู้ Container ถูกกักที่ US Customs.ผ่านมา 3-4 วัน
ถึงตัดสินใจกันได้ ต้องรอให้ตู้ Container แรกถูกส่งกลับก่อน ใช่ไม๊ !?!?



อธิบายความของ Fumigated Certificated และ การตราประทับ IPPC อีกนิด
ไม้ที่ถูกอบยาด้วยวิธีการ Heat Treatment หรือ Methyl Bromide ด้วยกรรมวิธีและการตรวจสอบ ตรวจวัดค่าที่ถูกต้อง จะถือว่า สามารถส่งออกบรรจุภัณฑ์ไม้นั้นๆ ไปยังต่างประเทศได้

เท่านั้นไม่พอ ประเด็นสำคัญคือ ตราประทับเพื่อบอกว่า ได้ผ่านการอบยา โดยหน่วยงานที่ได้รับรอง


ตราประทับ เป็นของ องค์กรที่ได้รับการรับรองจากกรมวิชาการเกษตร
ส่วนสิทธิ์ของตราประทับ เป็นของ กรมวิชาการเกษตร
ที่สามารถจะยกเลิก หรือ เพิิกถอนสิทธิของ องค์กรนั้นๆได้ หากทำผิดกฎระเบียบ

ตราประทับ ถือว่าเป็นสิ่งที่บ่งบอกในตัวอยู๋แล้ว ว่าบรรจุภัณฑ์ หรือไม้นั้นๆ ได้ถูกอบยาแล้ว !!
เพราะฉะนั้น ตราประทับ จะสำคัญกว่า Fumigated Cert.

แล้วที่ผมเรียกร้อง Fumigated Cert. สำหรับตู้ Container ในภาคที่ 1 เพื่ออะไร ??
เพื่อ ยืนยันกับทาง USDA ว่าบรรจุภัณฑ์ไม้นั้น ได้ถูกอบยาเรียบร้อยแล้ว
เพื่อ เพิ่มน้ำหนัก ความน่าเชื่อถือของ Package นั้นๆ
เพื่อ ปล่อยตู้นั้นเข้าสู่ USA แล้วปัญหาพัวพันต่างๆ จะได้ไม่เกิด และจบสิ้นเสียที

แต่ทุกอย่าง สายเกินไป สำหรับตู้ Container นี้
นี่ไม่ใช่ Shipment แรกที่ผมส่งไป USA เป็น Shipment ที่เท่าไรแล้วก็ไม่รู้

จากนั้นทางญี่ปุ่นก็บอกมาว่า ค่าใช้จ่ายในการส่งสินค้า เพื่อทดแทน Shipment ที่ถูกส่งกลับจาก USA
ค่า Air Freight ราวๆ 10 ล้านบาท !!

เรื่องนี้ยังคงต้องต่อสู้กันต่อไป ด้วยการตีความความหมายของ Dunnage


สิ่งที่ต้องตีความ ได้ถูกอธิบายให้ทางญี่ปุ่นรับรู้เรียบร้อย แต่หลังจากนี้ จะดำเนินการต่อสู้อย่างไร ก็เกินหน้าที่ ที่ผมจะทำต่อ ก็ได้แต่คิดในใจว่า เรื่องนี้ ต้องฟ้องร้องเรียกค่าเสียหายจาก USDA
คงต้องปล่อยให้เป็นงานของ ญี่ปุ่น กับ USA แล้วละ

"Dunnage - Wood Packaging Materials used to secure or support a commodity, but which does not remain associated with the commodity"  
"Dunnage -วัสดุบรรจุภัณฑ์ไม้ที่ใช้เพื่อรักษาความปลอดภัย หรือ ป้องกันความเสียหายให้สินค้า  แต่ไม่ได้มีความเกี่ยวข้องกับสินค้า"

"Please note that blocking and bracing of goods inside  certified IPPC-stampd box or crate would not be considered dunnage,  as these Wood Packaing Material typically go with the shipment beyond the port of entry"
"โปรดทราบ : การยึดติดและผูกรั้งสินค้ากับบรรจุภัณฑ์ที่มีลักษณะลังทึบหรือลังโปร่งที่เป็น IPPC จะไม่ถือว่าเป็น Dunnage, บรรจุภัณฑ์ไม้เหล่านี้ จะไปพร้อมกับสินค้าหลังจากได้ผ่านออกจากท่าไปแล้ว"


ภาพตัวอย่าง Dunnage ที่ยึดสินค้าไม่ให้หลุด เคลื่อน ขณะเึคลื่อนย้ายตู้ Container

ตามความหมายด้านบน  สิ่งที่ผมระบุว่าเป็น Dunnage จะถูกถอดออกที่่ท่าปลายทาง และทิ้งที่ท่า ไม่ได้ติดไปกับสินค้าเมื่อนำออกจากท่า
เพราะฉะนั้น สิ่งที่ผมระบุว่า Part of Pallet จะติดไปพร้อมสินค้าตลอดเวลา เพราะนั่นเป็นส่วนประกอบของ Pallet ที่ไม่ต้องประทับตรา IPPC ทุกชิ้น
สรุปตามสิ่งที่ทางผมต้องการพิสูจน์ คือ Package นี้ ถูกต้องทุกอย่าง
แหม...อยากไปอธิบายให้ USDA ฟังจริงๆ ไม่ต้องผ่านชาวญี่ปุ่น ที่ดูเหมือนไม่ตั้งใจ และกระตือรือร้น ที่จะแก้ไขปัญหานี้สักเท่าไร

ก็อย่างที่บอกใน ภาค 1
FOB คือ ผู้ส่งออก มันไม่สนใจเลย เพราะของลงเรือแล้ว ไม่สนใจตามแก้ปัญหาที่เกิดหลังจากนั้น
แค่ต่อสู้กับ กฎระเบียบ USDA ก็เหนื่อย เครียด พอแล้ว
ต้องมาต่อสู้กับการเมินเฉย "Not Concern" ของพวกเจ้านายญี่ปุ่นอีก !!


มาสู่เรื่องของการพิสูจน์คน
จากบทเรียนของ IPPC Stamp ลงบนไม้ เพื่อรับรองว่า นั่นคือไม้ที่ได้รับการรับรองว่า ปราศจากแมลงศัตรูพืชที่จะรุกรานประเทศอื่นๆ

คน ก็เช่นกัน บางคน บางบ้าน บางครอบครัว อาจจะต้องการที่จะ Screen คนที่ได้รับการยอมรับว่า "ดีพอ"
Single Dad อาจไม่ถูกประทับตรา IPPC เพื่อระบุว่า เป็นคนดีพอ หรือ เหมาะสม หรือ อย่างเลวร้าย ก็อาจถูกมองว่า เป็น "ปีศาจ"

นั่นเป็นสิ่งที่ต้องพิสูจน์ เมื่อคุณถูกใครสักคน หรือ หลายๆคน มองว่า เป็น "ปีศาจ" ไม่ว่าจะด้วยรูปแบบของการพิสูจน์แบบไหน



ก็น่าแปลกใจ ที่หลายคนมองว่า คนนั้นๆ คือ ปีศาจ ทั้งๆที่ไม่เคยเจอ ไม่เคยเห็น หรือ ไม่เคยพูดคุยกัน
หลายคนสาปเขาเป็น "ปีศาจ" เพียงเพราะได้ยินว่าเป็น "Single Dad"

เมื่อคุณเจอคนที่ไม่รู้จักคุณเลย 2 กลุ่ม มองคุณว่าเป็น "ปีศาจ" ทั้งรอบเช้า และ รอบเย็น
คุณจะรู้สึกอย่างไร ??

หมอดู หรือ โหร ชื่อดังๆหลายคน คงจะตกงานกันบ้างละ เพราะมีหลายคนที่ตัดสินคนเป็น "ปีศาจ" ด้วยสถานะของเขา แค่นั้น
ค่นั้น จริงๆ !!

1 ความคิดเห็น: