ที่นี่ : หาดไตรตรังค์ ที่ที่บางคนในภูเก็ตเรียก ไกลกัน , นายกรัง ฯลฯ
แต่ไม่มีสำเนียง โฮ๊ว....ลงท้ายแบบชาวภูเก็ต
เริ่มต้นจากจุดนี้ ที่ป่าตอง หาดคุ้นเคยทั้งชื่อ และสถานที่
เส้นทางในป่าตอง เปลี่ยนเป็นถนน One Way หลายสาย เพื่อความสะดวกในการจราจร
หากเดินทางมาสุดหาดป่าตอง ไปทาง กะตะ กะรน เลี้ยวขวาอีกที ก็จะเจอป้ายนี้
เดินทางสู่ หาดไตรตรังค์
สูดลมหายใจลึกๆ แล้วไปทางซ้าย เริ่มขึ้นเส้นทางที่เป็นภูเขา ไม่สูงมาก Scoopy-I พาไปได้สบายๆ
ไตรตรังค์ เป็นหาดสงบ ไม่มีนักท่องเที่ยววุ่นวายมากมาย เหมือนป่าตอง
เป็นเหมือนโลกคนละด้านกันอย่างเห็นได้ชัด
ไม่มีผับ บาร์ นารี กระเทย เกย์ มีแต่หาด ที่พักขนาดเล็ก และๆไม่มี สองเรา ..... ฮิ๊ว....ว์...
ผมเริ่มจากการควบเจ้า Scoopy-I ไปสุดทาง
ถนนเริ่มแคบลง เส้นทางบางช่วงลาดชัน รถน้อยลงเรื่อยๆ
เมื่อสุดทาง ก็เป็นที่เอกชน ( ไม่รู้ ไทย หรือ ต่างชาติ มางาบไปแล้ว )
ค่าเข้าไปที่หาด 100 บาทครับ
อ่านชัดๆ อีกครั้ง 100 บาท
หาดอะไร ก็ไม่รู้ เหมาไปว่าไตรตังค์ทั้งหมดละกัน
ตัดสินใจ ชะเง้อดู หารถไฟเหาะ หาฝรั่ง No Bra แล้วมองว่ามีอะไรพิสดาร
เมื่อไม่มี ( No Bra ) ก็ไม่เข้าดีกว่า ว่าแล้วก็ขึ้นเนินกลับมาเส้นทางเดิม
มีอีกหลายหาดระหว่างทาง ที่น่าสนใจเข้าไปเดินชมทะเล
เพราะระหว่างทาง ก็ต้องเล็งๆไว้ ใช้มอเตอร์ไซค์ มันดีแบบนี้เอง
ซอยเล็ก ซอยน้อย เข้าไปเถอะ
ที่กล้าเข้า เพราะดู Google Map ไว้แล้ว ว่าจุดไหน เข้าไปได้ ไม่ได้
ขึ้นชื่อว่า เกาะ ไม่มีแค่เพียงทะเลหรอก ... ภูเขา ต้นไม้ใหญ่ รกครึ้ม ก็ยังมี
เพียงแต่ รอวัน แถวแผ้วทางไป ............. ก็เท่านั้น
นี่แหละครับ ไตรตรังค์ มุมมองจากข้างถนน สุดตา ก็ ป่าตอง
ที่นี่เป็นแนวหาดตื้นๆ มีโขดหินมากมาย ในบริเวณหาดที่ติดเขา
หาดทรายยังสะอาด น้ำทะเลยังใส
มีแต่หาดทราย เก้าอี้ชายหาด ว่างเปล่า นักท่องเที่ยวนอนอาบแดด ไม่กี่คน
เก้าอี้สองเรา ยังคงว่างเปล่า
ทรายที่นี่เม็ดละเอียด และขาวมาก
ชื่นชมกับหาดทราย น้ำทะเล ความสงบ แล้วก็เดินไปอีกด้านหนึ่งของหาดที่เป็นโขดหิน
เดินไปหาอีกอารมณ์หนึ่ง หาดเป็นของเราแล้วนี่นา .......
หินเยอะมาก ระหว่างเดิน ก็มีเสียงเหมือนเสียงของปูลมที่อยู่ในรู ส่งเสียงตลอดทาง
เสียงประมาณเสียงจั๊กจั่น ที่ส่งเสียงตลอดเวลา แต่รูปแบบเสียง ต่างกัน เท่านั้นเอง
ซากของปะการังแข็ง เต็มหาดหิน จนกลืนตัวเองไปกับก้อนหิน
บ่งบอกว่า พื้นที่แถวนี้ เคยอุดมสมบูรณ์
ซากพวกนี้ เริ่มต้นจากการฟอกสีตัวเองก่อน เพื่อเตือนคนท้องถิ่นว่า
"เพลาๆมือหน่อย ฉันจะแย่แล้วนะ"
เห็นได้จาก ที่ไปโดดน้ำ หลายๆเกาะรอบภูเก็ต จะเจอปะการังฟองขาวเยอะมาก
เริ่มฟอกจากปลายแขนขาของตัวเองก่อน แล้วค่อยๆลามมาถึงตัว
พื้นที่ที่จังหวัดนี้ เป็นเงินเป็นทองไปหมด พื้นที่ราบ พื้นที่เชิงเขา แม้กระทั่งบนเขา
ก็ถูกจับจองทำกินหมด เพื่อรองรับความเจริญ
อีก 10 ปี ข้างหน้า จะเป็นอย่างไร หนอ...
ลูกจะได้เห็นอย่างที่เราเห็นไหม ?
ย้อนกลับมาสู่ป่าตอง ยามค่ำคืน แสงไฟ เสียงเพลง ปลุกเร้าให้นักท่องเที่ยวไปชื่ืนชม
หลังจาก ชื่นชมกับธรรมชาติยามมีแสงแดดเสร็จ
ก็จงมาเต้นระบำกับแสงไฟ ต่อไปจนเช้าของวันใหม่
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น