ค้นหาบล็อกนี้

วันพุธที่ 15 พฤศจิกายน พ.ศ. 2560

จองเลขทะเบียนรถยนต์ กันหน่อยไม๊ ??

เดาว่า หลายๆคน คงมีรถยนต์ใช้กัน
และเดาว่า หลายๆคนอาจจะไม่ชอบใจกับเลขทะเบียนที่ตัวเองได้รับ
บ้างก็ ได้เลขทะเบียนมาแล้ว เทพเจ้า บอกว่า ไม่ดี ไม่เข้ากัน
บ้างก็ ได้เลขทะเบียนมาแล้ว เมีย แม่ยาย เมียคนข้างบ้าน ไม่ปลื้ม
บ้างก็ อยากได้ตรง พศ. คศ. เกิด
ก็เลยเกิดภาวะ อยากได้เลทะเบียนที่ต้องการ



ในที่นี้ จะกล่าวแบบเน้นไปที่ ส่วนกลาง คือ เขตกรุงเทพฯ ส่วน ตจว. อาจจะต่างกันบ้างเล็กน้อย

อยากได้เลขสวยๆ !!
สมัยก่อนๆ ก็คงเข้าไปที่ สนง. ขนส่ง จตุจักรเป็นหลัก เข้าไปทำพิธีกรรม อะไรก็แล้วแต่
เพื่อให้ได้เลขนั้นๆมา

สมัยนี้ล่ะ ...
ผมจำปีที่เริ่มไม่ได้จริงๆ จำได้แต่ช่วงของเหตุการณ์คร่าวๆได้ว่า
ยุคที่ 1 - เดินเข้าคิว
ยุคเริ่มต้นของการจดทะเบียน คือ เข้าคิว - ตรวจเอกสาร - เข้าคิว - หยิบกระดาษ - เขียนเลขที่ต้องการ หรือ เลือกเลขในกลุ่มที่จัดไว้ให้
จำได้ลางๆ แบบนี้ แต่ละคน อาจจะต่างวิธีการ อันนี้ มีสารพัดแบบ
เห็นบุคคลภายนอก ยืนข้างๆโต๊ะ เจ้าหน้าที่ก็มี
แต่.......นั่นมันสมัยยุคไดโนเสาร์ ลืมๆ มันไปเถอะ
------------------------------
ยุคที่ 2 - เข้าคิว เพื่อรับบัตรคิว

ไม่แน่ใจว่าช่วงปี 2013-2014 ราวๆนั้น
เปิดให้ประชาชน ไปรับบัตรคิว เพื่อเข้าคิวเลือกเลขทะเบียนรถยนต์
ราวๆ 05.00 - 06.00 เข้าไปรับบัตรคิว - แล้วตรวจเอกสาร - รอเวลาราชการ จะถูกเรียกตามคิว เพื่อไปเลือกเลขทะเบียนรถยนต์
จำคร่าวๆ ได้แค่นี้ - ผิดพลาดขออภัย ไม่อยากหาข้อมูล เพราะมันขอเก่า ไม่เข้าประเด็นหลักของหัวข้อนี้

--------------------------------

ก่อนจะเข้า ยุคที่ 3 เกริ่นนำอีกนิดหน่อย
ยุคเริ่มทำป้ายกราฟฟิค

หมวดอักษร วx น่าจะมีอยู่ 4-5 หมวด ที่ทดลองทำป้ายกราฟฟิค แต่สิทธิ เหมือนป้ายธรรมดา
หมวด วx จะอยู่ราวๆปี 2002-2003 แต่หลักๆจะอยู่ปี 2002
เรื่องสิทธิ เดี๋ยวว่ากันตอนท้าย

ยุคนี้เป็นป้ายจับฉลาก เข้าคิว เพื่อจับฉลากเลขที่จะได้ ในกลุ่มกราฟฟิค ก็เลขในกลุ่ม 301 เลขทะเบียน ที่ประมูลกันในปัจจุบันนั่นแหละ

ต่่อมาเป็น ป้ายกราฟฟิคจริงๆ ประมูลจริง จ่ายเงินจริงๆ
ผู้ประมูลก็มีส่วนร่วมในการกุศล หาเงินเข้ากองทุนเพื่อความปลอดภัยในการใช้รถใช้ถนน (กปถ.) ราคาก็ผกผันตามเลขทะเบียน และการเชียร์ของทีมงานประมูล

ป้ายกราฟฟิค-ป้ายทอง (Gold Limited Edition)

จะเห็นป้ายทะเบียนรถยนต์บางคันเป็นกราฟฟิคโทนสีเหลือง บ้างก็ว่าสีทอง
นั่นคือหมวด ฆx ที่ออกในปี 2012
เคยคุยกับคนใช้ป้ายทอง แกบอกว่า มีป้ายขาวปกติ ให้อีก 1 ชุด - เท็จ/จริง ไม่แน่ใจ
Concept ก็ตามภาพเลยครับ
----------------------------------
ยุคที่ 3 - อินเตอร์เน็ตเฟื่องฟู
กรมการขนส่งทางบก เริ่มเปิดให้จองเลขทะเบียนทางอินเตอร์เน็ต ราวๆ ปี 2014
แต่การเริ่มต้นมักมีอุปสรรค 555
ระบบการจองล่ม จองแล้วระบบค้าง สารพันปัญหา
ทำให้ขนส่งฯ ต้องถอยทัพไปตั้งหลักใหม่ เพราะโดนโทรฯ เข้ามาร้องเรียนกันมากเหลือเกิน

เข้าเรื่องของการจองในยุคสมัยนี้ ( พฤศจิกายน 2560 )

เข้าเวป ทะเบียนรถได้เลย ( เข้า google จะใส่ชื่อไทย อังกฤษ ขึ้นให้หมด)

ก็จะออกมาหน้าตาแบบนี้ เลือก ยอมรับหลักเกณฑ์
ในข้อควรระวัง ขยายมาให้ดู เผื่อจะได้เข้าใจ

ระบบจะเปิดเวลา 10.00 น. แต่นั่นมัน 10.00 น. ของใครล่ะ ??
จากการทดสอบ 2-3 ครั้ง ให้อ่าน 2 บรรทัดล่าง ช้าๆ
** คำแนะนำ - คุณตั้งเวลาในคอมพิวเตอร์ ให้ตรงกับระบบ โดยดูจาก google time
จากนั้น คุณจงดูเวลา พอถึง 09.57 น. เมื่อไร กด ยอมรับหลักเกณฑ์ แล้วก็พร้อมลุยเลย
เลือกประเภทรถของคุณได้เลย
รถกระบะ 4 ประตู / รถเก๋ง เลขยากๆ สวยๆ ก็จะยากหน่อย เพราะคู่แข่งเยอะ
รองลงมาเป็น รถกระบะ ที่ ก็ไม่ถือว่า ยากเท่าไร
ว่ากันที่กลุ่ม รถกระบะ 4 ประตู / รถเก๋ง
ดูจากภาพเลยครับ ว่าคุณจะต้องเตรียมอะไรบ้าง ก็เตรียมตามนั้นไว้
** คำแนะนำ - คุณจดใส่กระดาษไว้ ตัวใหญ่ๆ พร้อมเลขทะเบียนในใจคุณไว้ สัก 10 หมายเลข
ที่ให้เตรียมเยอะ เผื่อคุณเลือกเลขยากๆๆๆ เช่น 7779 , 7999 , 7889 , 7879 , 8889 , 8999 ฯลฯ
เตรียมเลข สุดท้าย เผื่อผิดหวังด้วยนะครับ

กรอกรายละเอียดทั้งหมด ลงในช่องที่ให้ใส่
** คำแนะนำ - คุณไม่สามารถ Copy & Paste ได้เลย จะต้องกรอกใหม่เอง
ภาษาอังกฤษ ให้ใส่อักษรตัวพิมพ์เล็ก ระบบจะแปลงเป็นพิมพ์ใหญ่ให้
เมื่อครบแล้ว กด จองเลข
ได้ - ไม่ได้ รอสักพัก ระบบจะบอกให้
ได้ - ยินดีด้วย
ไม่ได้ - จิ้มใหม่ แต่จะให้คุณใส่น้อยลงละ ( โปรดดีใจ )
ระบบจะให้ใส่แค่ ยี่ห้อรถ กับเบอร์โทรฯ
และ แน่นอน.....เลขลำดับถัดไป ในใจคุณ
** คำแนะนำ - อย่าใส่เลขในหมวดประมูล !!
เพราะระบบจะวนใหม่ ให้คุณกรอกรายละเอียดทั้งหมดใหม่
คุณจะเสียเวลาไปอีกพักใหญ่ๆๆๆ
และเมื่อคุณจองได้สำเร็จเสร็จสรรพ
ก็จะมีหน้าต่างขึ้นมาให้ หรือ สามารถตรวจสอบได้ จากเลขบัตรประชาชน
ขอให้ทุกท่านโชคดี

ส่งท้ายเรื่อง สิทธิของป้ายประมูล กับ ไม่ประมูล
คร่าวๆ คือ
ป้ายประมูล - ถือครองได้ โดยไม่ต้องมีรถ / ค่าโอน แพงกว่าปกติ ราวๆ 3 เท่า
ป้ายธรรมดา รวมทั้งป้ายกราฟฟิคจับฉลาก - ถือครองไม่ได้ ต้องมีรถมาสลับ / ค่าโอนปกติ

ส่งท้ายอีกเรื่อง - ป้ายปลอม เสมือนปลอม ลวงโลก
จะทำปลอม เลียนแบบ หรือ ใส่กรอบหลอก - ผิดกฎหมายนะครับ

มีความผิดตามกฎหมายว่าด้วยรถยนต์ พ.ศ. 2522 และยังอาจมีความผิดตามประมวลกฎหมายอาญาฐานปลอมแปลงหรือใช้เอกสารราชการปลอม ซึ่งมีอัตราโทษจำคุก ตั้งแต่ 6 เดือน-5 ปี ปรับตั้งแต่ 1,000-10,000 บาท

วันจันทร์ที่ 13 พฤศจิกายน พ.ศ. 2560

จัดซื้อจัดจ้างภาครัฐ # 3 - รอยต่อสู่ระบบ E-Bidding

24 สิงหาคม 2560 - มีประกาศจากกรมบัญชีกลาง เรื่อง แนวทางปฏิบัติในการดำเนินการจัดซื้อจัดจ้างผ่านระบบการจัดซื้อจัดจ้างภาครัฐด้วยอิเลคทรอนิกส์ (e-Government Procurement : e-GP)



เพียงแค่เห็นหัวข้อ ก็ดีใจมากแล้ว ทั้งๆที่ยังไม่ได้อ่านเนื้อหาอะไรมากมาย
เพราะรู้ว่า สักวันหนึ่ง การจัดซื้อจัดจ้างภาครัฐควรจะเริ่มมาถึงจุดนี้

ก่อนหน้านี้ มีการใช้ระบบ E-Bidding คือการประมูลงานผ่านระบบอินเตอร์เน็ต โดยการเข้าระบบของรหัสผู้ค้าเอง แต่อาจจะไม่แพร่หลายมาก เนื่องจากปัจจัยหลายๆอย่าง ทั้งด้านมืด ด้านสว่าง

ส่วนนี้ จะขอเทียบงาน สอบราคา กับ E-Bidding ในช่วงปกติ ก่อนประกาศฉบับนี้จะออกมา
มีงานจัดซื้อจัดจ้างแบบ "สอบราคา" ประมาณ 1,000 งานต่อวัน
มีงานจัดซื้อจัดจ้างแบบ "E-Bidding" ประมาณ 350 งานต่อวัน
ตัวเลขเป็นประมาณการคร่าวๆ จากที่เปิดดู เปิดหางานทุกวัน / สถิติจริง คงต้องจากกรมบัญชีกลาง

หลังประกาศฉบับนี้จะออกมา สำรวจวันที่ 28 สิงหาคม 2560
มีงานจัดซื้อจัดจ้างแบบ "สอบราคา" ประมาณ 10 งานต่อวัน
มีงานจัดซื้อจัดจ้างแบบ "E-Bidding" ประมาณ 41 งานต่อวัน
มีการสะดุดของงานจัดซื้อจัดจ้าง เนื่องจากมีกฎระเบียบอื่นๆที่เกี่ยวข้องในส่วนอื่นๆอีก
แต่เมื่อผ่านไปสักระยะ ทุกอย่างก็จะเข้าที่ เพราะ

กรมบัญชีกลางได้มีหนังสือเชิญชวนผู้ค้าไปอบรมเรื่องนี้เป็นระยะๆ อยู่แล้ว
ส่วนเจ้าหน้าที่ของราชการเอง ก็คงมีการอบรมก่อนหน้านี้ เป็นระยะเวลานับปีแล้ว

23 สิงหาคม 2560 - ได้มีระเบียบกระทรวงการคลัง ว่าด้วยการจัดซื้อจัดจ้างและการบริหารพัสดุภาครัฐ จำนวน 72 หน้า เป็นแนวทางในการทำงานจัดซื้อจัดจ้าง
สาระสำคัญที่ผมเอง ชื่นชอบก็คือกระบวนการ E-Bidding นั่นเอง


เป็นการตัดตอนการจัดซื้อจัดจ้างแบบสอบราคา ให้เหลือน้อยลงที่สุด แล้วไปเข้าระบบ E-Bidding
และที่โดนใจอีกหัวข้อหนึ่ง คือ

หลักประกันการเสนอราคา จากเดิม วงเงินเกินกว่า 2,000,000.- บาท ต้องมีหลักประกันการเสนอราคา 5% คืออย่างน้อย 100,000.- บาท
เปลี่ยนเป็นวงเงินเกินกว่า 5,000,000.- บาท ต้องมีหลักประกันการเสนอราคา 5%

ทำให้บริษัทเล็กๆ ที่เงินทุนน้อยๆ ก็สามารถแข่งขัน และค่อยๆขยายตัวเติบโตได้อย่างเป็นขั้นเป็นตอน

บริษัทเล็กๆ ไม่ได้รับงานราชการอย่างเดียวแน่ๆ ฉะนั้น วงเงินหมุนเวียนเป็นสิ่งสำคัญ แม้จะแค่ 100,000.- บาท สำหรับบางบริษัท ก็อาจจะเครียด หรือ สะดุด ได้

ยินดีกับก้าวนี้ของกรมบัญชีกลาง ที่ยิ่งใหญ่สำหรับบริษัทเล็กๆ
ก้าวที่ข้ามผ่าน ความอึมครึมของการจัดซื้อจัดจ้างภาครัฐ โดยเฉพาะส่วนงานปกครองท้องถิ่น ที่สมัยก่อนๆ ผมไม่ค่อยจะกล้าเข้าไปเสนอตัว

ชื่นชมด้วยหัวใจ !!

วันพุธที่ 8 พฤศจิกายน พ.ศ. 2560

จัดซื้อจัดจ้างภาครัฐ # 2 - ปลาใหญ่ไล่ปลาเล็ก

สิงหาคม 2016 : มีงานจัดซื้อจัดจ้างภาครัฐ แบบ E-Bidding เป็นเครื่องกรองอากาศ

เริ่มต้น ผมก็เข้าระบบ Download Specification มาดู แล้วก็ค้นหา
คุณลักษณะ คือ มีแผ่นกรอง , ระบบการกรอง ฯลฯ ที่เมื่อเทียบแล้ว มันคือ
เครื่องกรองอากาศรุ่นหนึ่งเดียว ของบริษัทขายตรงรายใหญ่
ราคาที่ทางหน่วยงานรัฐกำหนดไว้ คือ เครื่องละ 50,000.- บาท

OK

ทำการติดต่อสอบถามพรรคพวก เพื่อน ที่พอรู้จักผู้ขาย หรือ สมาชิกขายตรง
สรุปว่าได้ราคามาละ
ราคาตาม Catalog ของบริษัทขายตรง คือ 53,8xx.- บาท
ราคาสมาชิก คือ 43,0xx.- บาท

ภาพประกอบไม่เกี่ยวกับเรื่องนี้เลย แต่ลงภาพสินค้าไม่ได้จริงๆ

แต่....ในช่วงเวลาเดียวกัน
สมาชิกสามารถซื้อได้ในราคา 38,0xx.- บาท
โดยจะได้สิทธิก็ต่อเมื่อ ซื้อสินค้าของบริษัทฯ ทุกๆ 800.- บาทจะได้ 1 สิทธิ์
และในทุกวงเงินการซื้อสินค้า ก็จะมีผลประโยชน์ในรูปเงิน คืนกลับมา 15% - 18% หรือ มากกว่านั้น
ขึ้นอยู่กับจำนวนเงินของการจ่ายของเราและสายงาน

โอว....คนไม่สนใจงานขายตรง ก็ต้องมาสนใจ มาใช้สินค้า เพื่อได้สิทธิ และสู้ราคาเพื่อยื่นงานราชการได้

สรุป - 1 : ผมยื่นเสนอราคาผ่านระบบ E-Bidding ด้วยราคา 37,8xx.- บาท
รวม 4 เครื่อง เป็นเงิน 151,5xx.- บาท

ทำไม ??? ทำไม ยื่นต่ำกว่าราคาที่เราซื้อ 205.- บาท ต่อเครื่อง ??

เพราะว่า...ถ้าผมได้งานนี้ ซื้อทั้งหมด 4 เครื่อง ต้องจ่ายเงินบริษัทขายตรงเป็นเงิน 152,3xx.- บาท
แต่ยื่นเสนอราคา 151,5xx.- บาท เท่ากับ ผมขาดทุนอย่างน้อย 205.- บาท x 4 เครื่อง
เป็นเงิน 820.- บาท ยังไม่รวมค่าใช้จ่ายจิปาถะ ค่าขนส่ง ค่าแรง ฯลฯ

เพราะว่า...(อีกครั้ง) บริษัทขายตรงจะจ่ายผลประโยชน์รูปเงินสด เข้าบัญชีเรา ตามสัดส่วนดังที่กล่าวไว้ทีแรก - ชาวขายตรงคงเข้าใจเรื่องนี้ดี

ผมจะได้รับเงินคืนกลับมาในเดือนถัดๆไป หลังจากการซื้อ 18% ราวๆ 27,4xx.- บาท

----------------------------------------------------

สรุป - 2 : ผมชนะการ E-Bidding ครั้งนี้ แต่....
ก่อนการประกาศผลผู้ชนะการเสนอราคา...........ย้ำอีกครั้งว่า..ก่อนการประกาศผล
มีบุคคลลึกลับ โทรฯมาหา หนึ่งในกรรมการของบริษัท
พูดในทำนองว่า จะโดนทางบริษัทขายตรงฟ้องร้อง เพราะขายต่ำกว่าราคาที่บริษัทฯกำหนด

ในช่วงเวลานั้น ได้แต่สงสัยที่ 1 เขาคือใคร ? ( ตอนโทรฯมา เขาบอกชื่อตัวเองเสร็จสรรพ )
สงสัยที่ 2 เขารู้จักเบอร์ติดต่อได้อย่างไร ?
สงสัยที่ 3 เขารู้ผลแล้วหรือ ?
สงสัยที่ 4 เขาต้องการอะไร ?

วันรุ่งขึ้น ผมโทรฯสอบถามหน่วยงานรัฐ ที่เป็นต้นเรื่อง ได้คำตอบเพียง
รอ ผอ.เซ็นชื่อ แล้วก็จะประกาศ แต่ไม่มีคำตอบเรื่อง บุคคลที่โทรฯมา

----------------------------------------------------

สรุป - 3 : ผมเป็นผู้ชนะการ E-Bidding ดำเนินการตามขั้นตอน ส่งมอบสินค้า ประกอบ ติดตั้ง แนะนำการใช้งาน บำรุงรักษาเบื้องต้น ให้ผู้ใช้งานได้รับทราบ
เรื่องกับหน่วยงานภาครัฐ - ไม่มีปัญหา
แค่ติดใจ เล็กๆน้อยๆ เรื่องใครคือหนอน ? ที่บอกบุคคลลึกลับเรื่องผลการเสนอราคา

ในช่วงการส่งมอบ แนะนำการใช้งาน ก็จะต้องมีคณะกรรมการตรวจรับ 3 คน
มี 1 คน ที่ดูเหมือนว่าจะเป็นช่างประจำหน่วยงาน ได้บอกกับผมว่า
"เครื่องก่อนหน้านี้ ไม่เห็นมีใครมาอธิบายแบบนี้เลย"
"พลาสติกที่ห่อไส้กรอง ก็ไม่ได้เอาออก แล้วก็ส่งมาให้ช่าง บอกว่า เครื่องมีปัญหา"


นั่นหมายความว่า เครื่องกรองอากาศนี้ มีการซื้อกันมาก่อนหน้านี้แล้ว น่าจะโดยการผ่านบุคคลลึกลับที่ว่านี้ เพียงแต่ .....
ครั้งนี้ !! มันคือ E-Bidding ที่เขาไม่สามารถทำอะไรกับใครได้ จนกว่าจะจบระยะเวลา และขั้นตอนการยื่นเสนอราคา

----------------------------------------------------

สรุป - 4 : ผมได้รับจดหมายจากหน่วยงานจริยธรรม(ชื่อเพราะมาก) ของบริษัทขายตรง ว่ามีการร้องเรียนของสมาชิกรายหนึ่ง ซึ่งก็คือบุคคลลึกลับที่ว่านี้ ผมขอเรียกแกว่า "หมอปอบ" เพื่อความคุ้นชินกับชื่อที่ได้รับมาตั้งแต่ ตอนที่โทรฯมาในช่วง สรุป - 2

เนื้อหาคือ ผมต้องจ่ายเงินให้ หมอปอบ เป็นจำนวนเงินตามส่วนต่างราคาขายกับราคาที่ผมเสนอ คือ 20,0xx.*- บาท (ราคาขาย 43,0xx.- บาท หัก ราคาเสนอ 37,8xx.- บาท x จำนวน 4 เครื่อง)

เมื่อได้รับจดหมายมา ผมก็ทำจดหมายชี้แจงกลับไป พร้อมตั้งคำถาม
1. ผมยอมรับได้ในการจ่ายเงินคืน ในจำนวน ส่วนต่างที่ผมซื้อ กับ ราคาเสนอขาย จำนวน 205.- บาท x 4 เครื่องเป็นเงิน 820.- บาท
2. ผมยอมรับในการจ่ายให้กับบริษัทขายตรง เพราะระบุว่า ผมทำผิดกับบริษัทฯ ก็ควรชดเชยให้กับบริษัท ไม่ใช่ใครคนใดคนหนึ่ง ที่เสียผลประโยชน์
3. ผมอธิบายการซื้อ-ขายครั้งก่อนหน้า ว่าไม่มีการอธิบาย และแนะนำการใช้งาน - ผิดจริยธรรมของนักขายไหม ?
4. ผมชี้แจงเรื่องการโทรฯมาของ หมอปอบ ว่าเกิดเหตุการณ์ลักษณะนี้กับพนักงานขององค์กร ได้อย่างไร ? และยังสนับสนุนให้ หมอปอบ ร้องเรียน ได้อย่างไร ?

หลังจากนั้นก็ยังมีการโทรฯ ประชุมสายร่วมกัน ซึ่งทาง หน่วยงานจริยธรรม(ชื่อเพราะมาก) ก็ยืนยันจะให้จ่ายเงินให้ หมอปอบ ผมก็ได้ปฏิเสธ และตั้งคำถามกลับไปเหมือนในจดหมายชี้แจง

บทสรุปของสรุป - 4 : เรื่องนี้ยังคงค้างอยู่

ภายหลังจากนั้น ผมก็ค้นดูข้อมูล ก็พบว่า หมอปอบ เป็นผู้มีตำแหน่งใหญ่ในบริษัทขายตรง และคงออกตัวแทนทีมงานในสายงาน เพื่อให้มีน้ำหนัก กดลงไปที่หน่วยงานจริยธรรม(ชื่อเพราะมาก)
สรุปงานนี้ ที่ได้ทำงาน ผมมีกำไรนิดหน่อย แทบจะไม่คุ้มค่า 
แต่ความรู้ ความเข้าใจที่ได้มาจากหลายๆเรื่องที่เกิดขึ้น มากมายจริงๆ
ต้องขอบคุณ หมอปอบและทีมงาน / บริษัทขายตรง / หน่วยงานจริยธรรม(ชื่อเพราะมาก)
----------------------------------------------------

สรุป - 5 : กรกฎาคม 2560 เห็นมีการตั้งเรื่อง เพื่อซื้อเครื่องกรองอากาศ อีก 4 เครื่อง แต่ไม่เห็นการประกาศสอบราคา หรือ E-Bidding (หรืออาจจะมี แล้วผมไม่เจอ)

หากมีแรงกดดันบางอย่างจากมือที่มองไม่เห็น ก็อาจจะไปออกในแนว จัดซื้อวิธีพิเศษ หรือ คัดเลือก หรือ อื่นๆ ที่มีช่องทาง
เพื่อให้ หมอปอบ และทีมงาน ได้มีรายได้ และบรรลุเป้าหมายจากการขายตรงในลักษณะนี้

** เพิ่มเติม **
การจัดซื้อเครื่องกรองอากาศ หลายๆหน่วยงาน ไม่ใช่สเปคแบบนี้
นั่นอาจจะแปลว่า .............. (จงเติมคำในช่องว่าง)