แต่สุดท้าย ก็อดรนทนไม่ไหว ต้องกำหนดการแบบคร่าวๆเอง (จากการสำรวจความคิดเพื่อนๆร่วมด้วย)
ได้แพลนว่า (ปลาย)ปี 2014 นี้ เราจะไป อช.ภูสวนทราย และ ภูหัวฮ่อม จ.เลย กัน
กำหนดการวางไว้ที่ 5-7 ธันวาคม 2014 ซึ่งเป็นหยุดเทศกาล แต่ปลายทางของเราไม่ใช่ที่ยอดนิยมเท่าไร
ก็คงจะไม่หนาแน่นสักเท่าไร
เริ่มเดินทางโดย
สาย กทม.-1 ผมมานอนที่บ้านไพศาลีก่อน ในวันที่ 4 เพราะนัดแนะครัวพี่พงษ์ และครัวพี่แบด (เพื่อนผู้เป็นสมาชิกใหม่ของทริป) ที่เส้นทางสาย 12 ช่วง อ.วังทอง พิษณุโลก
สายนครสวรรค์ ครัวพี่พงษ์ ครัวพี่แบด นัดกันเอง แล้วมาเจอจุดนัดที่ อ.วังทอง
สาย กทม.-2 ล้อโต และครัวพี่ห้าว (ผู้มีสมาชิกใหม่อีก 1 คน) จะออกจาก กทม.แล้วมาเจอกันแถวๆ อ.ด่านซ้าย จ.เลย
สายลำลูกกา (ไม่กล้าเอ่ยนามเขา) - ติดภารกิจ ฟิชโช่ มาแจมไม่ได้
วันที่ 5 ธันวาคม 2014
2 สายนี้ มีรถ 3 คัน Ford Ranger , Honda City , Toyata Yaris มาครบเวลา 11.00 น. ( ผมเองที่มาช้ากว่ากำหนดที่นัดเพื่อนๆ )
วิ่งตามเส้นทาง อ.นครไทย พิษณุโลก เข้า อ.ด่านซ้าย จ.เลย เส้นทางเป็นถนนราดยาด บนแนวภูเขาที่ไม่สูงชันมากมาย
3 คันนี้มาจอดกินข้าว ซื้อเสบียงตุนที่ อ.นาแห้ว จ.เลย
หลังจากเช็คสถานะของล้อโต จึงสรุปกันใหม่ว่า เรา 3 คัน จะขึ้นไปภูหัวฮ่อมก่อน เพื่อดูและเตรียมพื้นที่ ด้วยความกังวลว่าคนจะเยอะมากจนแออัด
เมื่อมาถึง ผู้คนไม่แออัดมากอย่างที่กังวล
นายแบบตัวน้อย กับป้ายสถานที่ ที่มาแบบโดดเดี่ยว เพื่อนๆวัยไล่เลี่ยกันไม่มาเลย
หลังจากกางเต๊นท์กันเสร็จสรรพ ล้อมวง ฝ่ายอาหาร ฝ่ายเครื่องดื่ม ฝ่ายจินตนาการ ก็บรรเลงหน้าที่ตัวเองอย่างพร้อมเพรียง
อันนี้ ฝั่งตะวันตก ฝั่งซ้ายมือ จะเป็นจุดชมวิว และ ถ่ายภาพ
และแน่นอน...จุดขาย ย่อมมีผู้คนไปถ่ายรูปกันมากมาย พอแทรกๆตัวไปได้ ไม่รบกวนแนวภาพของคนอื่นๆ ก็พอละ
จุดที่เรากางเต๊นท์เป็นจุดฝั่งพระอาทิตย์ขึ้น ประกอบกับต่างคนต่างทำหน้าที่ทั้งอาหาร และเครื่องดื่ม แล้วก็ห่วงสนทนากันตามประสาเพื่อนๆ
จวนจนราว 16.00 สายล้อโต โทรมาบอกว่าถึงแล้ว แต่ปรากฎว่า สายนั้น ไปที่ภูสวนทราย เลยต้องวนกลับมาในจุดที่เรากางเต๊นท์กัน - เพื่อนๆเริ่มหิวแล้ว เพราะพ่อครัว พร้อมของกินแสนอร่อยอยู่ในรถล้อโต
ฟ้าเริ่มมืดลง และแล้ว .... พวกเขาก็มาครับ !!
Big (Dick) Bike 2-3 คันก็ขับแหกเข้ามาในพื้นที่กางเต๊นท์
ไม่ทราบว่า ไม่มีมารยาทอยู่ในตัวอยู่แล้ว หรือ ลืมตัว หรือ เห็นแก่ตัว หรือ ฯลฯ
ขับมาคงจะหาที่กางเต๊นท์ ผมได้แต่ครางว่า ...เฮ๊ย...เฮ๊ย...
ซึ่งพี่แก ก็คงไม่ได้ยิน เพราะรถแกเสียงดังเหลือเกิน
เอ่อ....ทำใจครับ มารยาทดีก็มี มารยาททราม ก็หลาย.....
----
วันที่ 6 ธันวาคม 2014
เราต่างตื่นกันแต่เช้า หาอะไรกิน นั่งนิ่งๆ สงบจิต หยุดเรื่องเครียดๆ เพื่อเสพความสงบให้เต็มที่
แม้จะมีผู้คนจากฝั่งพระอาทิตย์ตกมาเดินชมวิวฝั่งพระอาทิตย์ขึ้น ก็เพลินตา เพลินใจดี
และที่นี่ ไม่มีนักท่องเที่ยวแนวลบ มารบกวนใจ
เพื่อนๆหลายคนทยอยไปเข้าห้องน้ำ และแน่นอนว่า คนเยอะ น้ำย่อมไม่พอ ทำให้น้ำบางช่วงเป็นสีขุ่น นั่นก็เป็นเหตุผลเล็กๆ ที่ผมเอามาอ้าง ในการไม่อาบน้ำในเช้านั้น
อากาศไม่หนาวอย่างที่ต้องการ หมอกไม่จัด แต่ก็เย็นๆพอจะใส่เสื้อแขนยาวสักตัว
เราต่างรอลุ้นว่า เมื่อแสงแดดเริ่มมา จะทำให้หมอกเริ่มก่อตัวขึ้นบ้าง
แต่.....ก็มีแค่บางๆ ให้พอรู้ว่ามีบ้าง ... ก็ยังดี เหมือนเพื่อนๆด้านล่าง
พอสายๆ เราเริ่มเดินทางออกจากภูหัวฮ่อม เป้าหมายต่อไป คือ ผาตัด เพชรบูรณ์ ที่ไม่รู้รายละเอียดมาก
รู้แต่ว่า ไม่มีห้องน้ำ แล้วก็อยากไป แล้วก็คิดว่า คนน้อย ไม่แออัด
ณ.จุดๆนี้ .... พวกเราเริ่มกล่อม Yaris ให้ไปแจมด้วยกัน โดยหาที่จอดรถ City และ Yaris ไว้ที่ บ้านเข็กน้อย
โดยแลกกับการจอดรถข้างทาง เพื่อให้ Yaris ถ่ายรูป....OK ขอโทษเพื่อนร่วมทางนะครับ
ขอเอาใจเพื่อน ด้วยการขีดขวางทางเล็กๆ สัก 5 นาที (รถไม่มาก จึงหน้าด้าน..ขอจอดรถสักครู่)
ออกจาก นาแห้ว เข้าด่านซ้าย แวะกินข้าวร้าน กิ๊ฟก๊าฟ ตรงสามแยก
เดินไปมาเห็นรูปพบว่า ร้านนี้ ทำอาหารถวายพระเทพฯ หลายครั้งมาก เจ้าของร้านก็มายืนคุยกับเราอย่างภาคภูมิใจ ที่ได้ใกล้ชิดพระเทพฯ
หลังจากนั้น ก็มาตามเส้นทางเดิม เข้ามาบรรจบถนนสาย 12 ซึ่งกำลังทำทางอยู่เป็นระยะ
พวกเรามุ่งหน้าสู่ จ.เพชรบูรณ์ แต่เลี้ยวซ้ายเข้าทางบ้านเข็กน้อย เพื่อค้นหาทางไป "ผาตัด"
City และ Yaris จอดที่หน่วยงานทหารในเข็กน้อย ถ่ายสัมภาระใส่ ล้อโต และ Ranger
ไปหา "ผาตัด" เอาข้างหน้า
"ผาตัด" เป็นจุดที่นักท่องเที่ยวแนว 4 Wheel Drive นิยมมากัน โดยเฉพาะหน้าฝน เนื่องจากถนน และทัศนียภาพ ดึงดูใจ แต่ก็แลกกับความเสียหายของถนน
อบต. บอกพวกเราว่า ตอนนี้ รถขับ 2 อย่าง Ranger ไม่ควรเข้าไป เพราะยังไม่ได้ใช้รถเกลี่ยทำทาง ให้เสมอกัน ถนนยังเป็นดินร่องลึก จากการถูกตะกุยด้วยล้อรถ และกำลังรถยนต์
แม้จะไม่มีฝน ก็ยังไม่สมควรเข้าไป
พวกเราเลยเปลี่ยนแผน ไปที่ผาตั้วเพ้ง ที่อยู่ในเส้นทางแนวเดียวกัน
ก็ที่จุดที่เป็นหน้าผาลิบๆตานั่นแหละ
แต่ด้วยปัจจัยหลายๆอย่าง จึงทำให้เราจอดรถ สำรวจวิวรอบๆ และเดินทางย้อนกลับไปนิดหน่อย เพื่อกางเต๊นท์นอนในจุดทีี่ ทุกคนสบายใจ ดีกว่า ที่นี่ครับ
แต่จุดนี้ ไม่มีเจ้าหน้าที่ทางราชการอยู่แล้ว พวกเราจึงบอกชาวบ้านตรงนั้น ซึ่งก็คิดว่าเป็นพลเรือน ที่ช่วยดูแลแทน แล้วก็จัดเตรียมพื้นที่กัน และแน่นอน....ไม่มีห้องน้ำ
นอกจากห้องน้ำชาวบ้าน ซึ่ง....เหนือคำบรรยาย จริงๆ
อากาศมีเมฆฝนมาบ้าง ทำให้ลุ้นกันว่าฝนจะ ตก - ไม่ตก
และแล้ว...ฝนก็มา แต่ไม่หนักมาก แค่ทักทาย คงยังเกรงใจว่า
นี่มันเดือนธันวาคม นี่มันฤดูหนาว
เมื่อฝนจากไป ท้องฟ้าสดใส ก็ตามมา ... แหม ... ยังกับเพลง
พวกเราเก็บของหลบฝนกันเล็กน้อย ให้เกียรติสายฝน
เป็นการตอบแทนที่สายฝนนั้น ให้เกียรติฤดูหนาว เช่นกัน....
เราต่างให้เกียรติซึ่งกันและกัน - เหมือนจะเพ้อแฮะ
ค่ำคืนแบบไม่มีไฟฟ้า ไม่มีห้องน้ำ ผ่านไปแบบสงบเสงี่ยม
มีเพียง พี่ห้าว ที่ตื่นตี 3 เพื่อมาต้มข้าวต้มให้เพื่อนๆ โดยแกคิดว่า ใกล้เช้า
โดยฟังสัญญาณนาฬิกา จากชาวม้ง
"กูได้ยินเสียงชาวบ้านคุยกัน มันกลับจากหากบ ก็เลยคิดว่าเช้าแล้ว"
ข้าวต้มเช้าวันที่ 7 ธันวาคม 2014 อาจจะอืดไปนิดหน่อย แต่ก็กินกันอย่างเอร็ดอร่อย
ก็เป็นผม เจ้าเดิมที่ตื่นเช้าๆ มาเดินสำรวจรอบๆบริเวณ
ต่างกันตรงที่เช้านี้ มีแต่พวกเราในพื้นที่แถวนั้น แสงที่เห็นเป็นพระจันทร์ที่สาดแสงนำทาง
ผมมักจะเลือกทริปประจำปี ให้ใกล้เคียงพระจันทร์ที่กำลังสุกสว่าง
ด้วยเหตุผลส่วนตัว คือ น้ำทะเล จะใสในช่วงนั้น - เหตุผลดื้อๆ ที่ไม่เหมือนเหตุผล
จริงๆแล้ว แค่เห็นแล้ว มันสงบดี
เดินขึ้นไปถึงถังน้ำขนาดใหญ่ของหมู่บ้าน
เดินขึ้นไปถึงลานจอดเฮลิคอปเตอร์ ไม่ไกล แต่ชันเหลือเกิน
มองไปรอบๆ เป็นเขาหัวโล้นสักประมาณ 50% ของพื้นที่
การบุกรุกทำลาย ยังถือว่า น้อยเมื่อเทียบกับภูเขาที่ จ.น่าน
แต่หากเทียบกับสิ่งที่ควรจะเป็น บนภูเขาควรมีต้นไม้ ไม่ใช่หรือ ??
แง่มุมที่ได้ และจะต้องเก็บไปคิดประจำทริปนี้ คือ
"พวกเราก็อายุมากขึ้น เงินทองก็พอมี ทำไมเราไม่เที่ยวให้สะดวกกว่านี้ ??"
หากจะสะดวกสบาย พักที่พักดีๆหน่อย จะเป็นทริปคั่นเวลา ที่สามารถเกิดได้ตลอดปี
แต่แง่มุมนี้ ก็รับมาคิด แล้วเราก็เกริ่นๆ โยนก้อนหินถามทางไปว่า
"ปีหน้า...อาจจะไปกางเต๊นท์นอนในรีสอร์ท ที่อยู่ริมแม่น้ำเพชรบุรี"
น่าจะพักกันแบบสบายๆ ในบรรยากาศแคมป์ปิ้ง อาจจะแถมด้วยอาบน้ำแร่ที่หนองหญ้าปล้อง
เผื่อว่า ปีหน้า จะมีสมาชิกหน้าใหม่ๆ เพิ่มขึ้นอีก ... แล้วเจอกันครับ เพื่อนๆ 60
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น