วันนี้ วันที่ 5 มีนาคม 2556 หลังจากผ่านพ้นการเลือกตั้ง ผู้ว่า กทม. ปี 2556 ไปเรียบร้อยแล้ว
ผลของการเลือกตั้งก็ออกมา เป็นที่เรียบร้อย
ชาว กทม. เสียงส่วนใหญ่ เลือก "ผู้ว่าคนเดิม" ม.ร.ว. สุขุมพันธุ์ บริพัตร ผู้สมัครหมายเลข 16
ก่อนอื่นใด ต้องขอแสดงความยินดีกับผู้ว่า คนใหม่ หน้าเดิมคนนี้
แต่ Blog นี้ คงไม่ได้มา ชื่นชม ยินดี สรรเสริญ เยินยอ อะไรกันมากมาย
Blog นี้ เขียนด้วยอารมณ์แปลกใจ ข้องใจ คาใจ กับคน กทม. เลยต้องมานั่งคิด ค้นหา
ว่าเกิดอะไรขึ้น โพลหลายสำนัก ก่อนการเลือกตั้ง ถึงให้ หมายเลข 9 พล.ต.อ. พงศพัศ พงษ์เจริญ ชนะผลการสำรวจโพล ซึ่งมีชัยเหนือ หมายเลข 16 ม.ร.ว. สุขุมพันธุ์ บริพัตร
ย้อน...กลับไป
ปี 2553 กทม. เกิดปัญหาทางการเมือง มีการชุมนุมของคนเสื้อแดง จนไปสู่การเผาบ้านเผาเมือง
ด้วยประโยค ( ที่ทำร้ายจิตใจผม และคนหลายๆคน )
"เผาเลยครับพี่น้องผมรับผิดชอบเอง" ของแกนนำเสื้อแดง
จำได้ไหมครับ ?
...
..
.
จำได้ไหมครับ ? ว่าคนที่พูดนี้ ณ. วันนี้ ได้เป็น รัฐมนตรี
แถมยังมั่นใจมากกับผลของโพล ถึงขนาด ประกาศบนเวทีหาเสียงให้ หมายเลข 9 ว่า
"แต่ขอให้สิ่งศักดิ์สิทธิ์ ฟ้าดินเป็นพยาน ให้พระสยามเทวาธิราช
ให้สิ่งศักดิ์สิทธิ์ พระแม่ธรณี พระแม่คงคา
ให้ดวงวิญญาณผู้มีคุณูปการ ต่อประเทศไทย ทุกดวง ทุกรุ่น ทุกชนชั้น
ได้โปรดรับฟังสิ่งที่ผมพูด ไอ้เหตุการณ์ที่ไฟไหม้ห้างสรรพสินค้า
ไหม้ตึกรามบ้านช่อง ในราชประสงค์ แล้วก็มายัดเยียด ว่าเป็นพวกผม เป็นตัวการเผาบ้านเผาเมืองนั้น
เหตุการณ์ดังกล่าว ทั้งเบื้องหน้า เบื้องหลัง .....ฯลฯ
แล้วถ้าใครใส่ร้ายป้ายสี ผู้อื่นโดยหวังผลประโยชน์ทางการเมือง
ก็ขอให้พินาศ ล่มจมตั้งแต่บัดนี้เป็นต้นไป เช่นเดียวกัน
โดยเริ่มต้น จากการแพ้ผู้ว่า กทม. ของพรรคประชาธิปัตย์"
นี่ละครับ ผลจากการฝึกโต้คารมมัธยมศึกษา สมัยก่อน
ต้องมีแขวะ สาดใส่ ฯลฯ กัน แล้วให้ผู้ฟังสนุกสนาน คล้อยตามไปกับคำพูด
จำได้ไหมครับ ? ว่าประเทศ ชะงักงันไปพักใหญ่ๆ กว่าจะฟื้นตัว และกลับสู่สภาพปกติ แบบมีรอยแผลในใจ มีความขัดแย้งในใจแฝงอยู่ ระหว่าง คนเสื้อแดง กับ คนเสื้อไม่แดง
บอกตรงๆ แม้แต่ผมเอง เมื่อขับรถไปทางไหน เจอคนเสื้อแดง รวมตัวกัน ก็จะรู้สึกถึงความไม่สงบสุขขึ้นมาจริงๆ และเชื่อว่า หลายคนก็ยังเป็นเช่นเดียวกับผม
เชื่อว่า คนกทม. ยังคงจำภาพเหล่านี้ แม้ใน กทม. จะมีทั้งเชียร์คนเสื้อแดง และไม่ชอบคนเสื้อแดง
แต่สิ่งที่อยู่ในใจทุกคน เชื่อว่า อยากให้บ้านเมืองสงบสุข ไม่มีความวุ่นวาย
แล้วมันเกี่ยวอะไรกับโพล ???
หลายคนคงนึกในใจ ว่า ผมออกทะเลไปไหน ???
สิ่งที่ผมเกริ่นนำนั่นแหละ เป็นพื้นฐานของที่จะอธิบายผลของโพล กับ ผลการเลือกตั้งจริง
ก่อนวันเลือกตั้งจริง 1 สัปดาห์ แกนนำเสื้อแดง [ ก็ประธาน นปช. นั่นแหละ ] ออกมาให้สัมภาษณ์ว่า จะมีคนเสื้อแดงไปสังเกตการณ์ หรืออาจจะแฝงนัยยะว่า ควบคุมสถานการณ์การเลือกตั้ง [ เดลินิวส์ ]
ลองนึกภาพว่า หน้าคูหาเลือกตั้ง มีคนใส่เสื้อแดงไปยืนแถวนั้นจำนวนมากๆ จะเกิดอะไร
คนที่จะเลือกตั้ง อาจจะคิดว่า ถ้าไม่เลือกหมายเลขที่คนกลุ่มนี้เชียร์อยู่ จะเกิดอะไรกับประเทศอีกไหม ?
นี่เป็นการกดดันเชิงสัญลักษณ์ หรือเรียกภาษาง่ายๆ ว่า กฎหมู่ ที่บีบคนที่ไปเลือกตั้ง
แม้เหตุการณ์คนเสื้อแดงไปสังเกตการณ์ จะเกิดหรือไม่เกิด แต่แกนนำออกมาบอกแบบนี้
คนที่อยากให้ประเทศสงบสุข ก็หวั่นใจ
นี่ยังไม่รวมกระแสข่าวกรณีตำรวจนครบาลส่งสายสืบมาจับตาหัวคะแนนพรรคประชาธิปัตย์ [ M2F ]
คนกทม. ก็เริ่มหวั่นไหว ว่าหากผู้สมัครที่คนเสื้อแดงเชียร์ ไม่ได้รับการเลือกตั้ง จะเกิดอะไรขึ้น หรือ โพล ของหลายสำนักออกมาในลักษณะของ ผู้สมัครที่คนเสื้อแดงเชียร์เป็นรอง จะมีความพยายามอะไรบางอย่างไหม ? นั่นคือสิ่งที่คน กทม. หลายคน วิตกกังวล
เพราะฉะนั้น เมื่อใครถาม ก็อาจจะตอบเลี่ยงๆไป หรือ ตอบให้ไม่มีความพยายามบางอย่างที่จะทำลายความสงบสุขของประเทศ หากผลการเลือกตั้งไม่ได้เป็น
ต่างกันตรงไหน ?
ก็ในเมื่อ วินาทีนี้ หมายเลข 16 ที่ไม่ใช่ ผู้สมัครที่คนเสื้อแดงเชียร์ ได้รับเลือกตั้ง บ้านเมืองก็สงบสุขดีนี่
ผมให้ร้ายกลุ่มคนมากไปไหม ?
ต่างกันครับ !!
เมื่อคุณรู้ว่า คุณจะแพ้ คุณจะต้องพยายามด้วย "วิธีการที่หลากหลาย" เพื่อให้ได้มาซึ่งชัยชนะ เพราะศึกครั้งนี้ ลงทุนกันไปสูง ทั้งความคาดหวัง ภาพลักษณ์ แรงกดดัน ฯลฯ
แต่หากคุณคิดและมั่นใจว่าชนะ ด้วยการสำรวจคะแนน ที่ออกมาว่าคุณจะชนะ
คุณก็ไม่พยายามด้วย "วิธีการที่หลากหลาย"
"วิธีการที่หลากหลาย" ในที่นี้ ก็ไม่สามารถบอกได้ว่าจะมีอะไรบ้าง เพราะมันอาจไม่ได้ถูกทำให้เกิดขึ้น แต่ เชื่อว่าถูกคิดเตรียมไว้ !!
และไม่ได้ถูกทำให้เกิดขึ้น ก็เพราะโพล นั่นเอง !!
ผลการเลือกตั้งออกมา กลุ่มคนที่เลือกหมายเลข 16 จะเป็นคนละกลุ่มกับที่โพลสำรวจหรือไม่ ?
ไม่ต้องไปคิดมาก หรือสืบค้นอะไรมากมาย
คน กทม.หลายคนคิดเหมือนที่ผมคิด คือ หากโพลถามมา ก็จะเลี่ยงหรือตอบให้บ้านเมืองสงบ ไม่มีการวางแผนใน "วิธีการที่หลากหลาย" และเตรียมทำให้เกิดขึ้น เพราะมั่นใจในผลของโพล
ดังนั้น ผลของโพล จึงออกมาที่ หมายเลข 9 จะได้เป็นผู้ว่า กทม.
นี่ไม่ใช่ทฤษฎีสมคบคิด แต่นี่เป็น แทคติก ของคน กทม. ที่คิดซับซ้อน เพื่อรับมือกลุ่มคนที่นิยมกฎหมู่ มากดดัน ข่มขู่ คุกคาม
ขอบคุณครับ คน กทม. ที่ออกมาใช้สิทธิมากถึง 63.98% และผู้สมัคร 2 รายที่มีคนเลือกเกิน 1 ล้านคะแนน น่ายินดีครับ
เลือกตั้งครั้งต่อๆไป ช่วยมาเลือกตั้งกันอีกให้มากกว่านี้นะครับ
ขอบคุณครับ คน กทม. ที่หักเหลี่ยมโพลแทบทุกสำนัก คนเจ้าสำนักโพล ต้องมานั่งคิด นั่งทบทวน เพื่อหาทางให้ โพลใกล้ความจริงมากที่สุด [ ผมว่า ผลการเลือกตั้งครั้งนี้ คิดทางแก้ เพื่อให้โพลออกมาได้อย่างผลการเลือกตั้งจริงๆ ได้ยากมาก ]
ขอบคุณครับ คน กทม.
ทิ้งท้าย ....
อย่าลืมติดตาม สิ่งที่ หมายเลข 16 หาเสียงไว้ ได้รับความไว้ใจแล้ว ต้องเดินหน้าทำต่อในสิ่งที่ดีครับ
แม้ผมจะไม่หวังการแก้ไขปัญหาจราจร เพราะโดนเตะตัดขาด้วยนโยบายรถคันแรกไปแล้ว
[ บอกตรงๆ ผมรังเกียจ นโยบายนี้ครับ !! เสียดายเงินก้อนนี้ ที่สามารถเอามาสร้างสาธารณูปโภคด้านการขนส่งได้มากมาย จนน่าจะแก้ไขปัญหา Bangkok Traffic Zoo ได้อย่างดี ]