เรื่องของกิน อาหารการกิน ก็เป็นเรื่องที่น่าสนใจครับ
แวะเวียนเข้าในเวป Hindumeeting มานาน
ศึกษาเรื่องราวหลากหลายจากที่นั่น
เรื่องศาสนา เรื่องพิธีกรรม เรื่องการปฏิบัติตัว
แม้จะแสดงตัวเองชัดเจนว่า เป็น Pagan แต่ก็ไม่ได้หมายความว่า ไม่สนใจคำสอนใดๆเลย
สิ่งที่ Pagan อย่างผม ทำคือ เรียนรู้ทุกศาสนา นำคำสอนที่ดีมาเรียน มาประยุกต์ใช้
คำสอนใด ที่ไม่เหมาะกับเราเอง ก็ ข้ามไป
วนกลับมาเรื่องของกิน เลยนึกถึงขนมที่ใช้บูชา ใช้ถวายพระพิฆเณศ
[ บางส่วนคัดลอกมาจากหลายๆเวป ผมไม่ได้นำมาเพื่อการพาณิชย์ - เลยไม่คิดจะขออนุญาตก่อน ]
ขนมโมทะกะ เป็นขนมทรงกลมยอดแหลม มีไส้ ทำจากข้าว และ มะพร้าว มีรสชาติหวาน
โมทะกะคนยาก คือ ขนมที่ชาวบ้านผู้ยากจนแต่มีศรัทธาอย่างมาก ได้ทำถวาย โมทะกะคนยากนี้เรียกกันเล่นๆ เป็นที่รู้กันว่า "โมทะกะคนยาก" รสชาติจะออกรส ฝืดๆฝาดๆ เพราะเครื่องปรุงส่วนผสม เป็นไปตามฐานะของคนยากจนที่ทำถวาย
โมทะกะเศรษฐี จะเป็นในทางตรงข้ามกันคือ ใส่ส่วนผสมอย่างดีที่สุด มากที่สุด เพื่อความปราณีตในการสักการะบูชา มีรสชาติหวาน หอม
ตำนานอัศจรรย์จากการถวายขนมโมทะกะ
ในสมัยอินเดียโบราณ มีพี่น้องสองสาว คนน้องเป็นผู้มีฐานะจน คนพี่ได้สามีเป็นชายผู้มีฐานะร่ำรวย อยู่กินแบบสุขสบาย คนน้องทำงานใช้แรงกายแรงงานเข้าแลกทรัพย์ ไปวันๆ ส่วนคนพี่ ก็ทำงานช่วยสามีตน แต่ก็ไม่ได้ยากลำบากเหมือนคนน้องเลย
คนน้องนั้นมีความเคารพศรัทธาในองค์พระพิฆเณศมหาเทพมาก เป็นศรัทธาที่มาจากใจจริงๆ ไม่ใช่ศรัทธาแบบผู้ขออ้อนวอน หรือ ศรัทธาแบบผู้แลกเปลี่ยนที่ว่าต้องได้สิ่งนี้จึงจะทำสิ่งนั้นสิ่งโน้นให้องค์ เทพเป็นการตอบแทน
วันหนึ่งคนน้องผู้ยาก ได้สะสมรวบรวมทรัพย์ที่หามาได้อย่างยากลำบาก ไปซื้อวัตถุดิบจากร้านเพื่อที่จะทำขนมโมทะกะถวายองค์พระพิฆเณศ แต่ถึงแม้จะสะสมทรัพย์ไว้ได้จำนวนหนึ่งแล้ว ก็ยังเรียกได้ว่า เล็กน้อยเหลือเกิน ที่จะทำขนมโมทะกะ ตามสูตรเครื่องขนมที่สมบูรณ์ได้ คนน้องได้ใช้เงินทั้งหมดเฉลี่ยซื้อ แป้ง น้ำตา และวัตถุดิบทั้งหลายให้ครบจำนวน แต่สิ่งของทั้งหลายที่เงินจำนวนน้อยนิดแลกมาได้นั้น ล้วนเป็นวัตถุดิบชั้นเลวทั้งสิ้น
เมื่อกลับมาถึงบ้านแล้ว นางคนน้องผู้ยากก็ได้ทำขนมขึ้นมาอย่างตั้งอกตั้งใจ แม้เครื่องทั้งหมดนั้นจะมีอยู่อย่างละนิดละหน่อยก็ตาม นางก็ได้ทำขนมขึ้นเสร็จและจุดประทีป และเริ่มทำพิธีบูชาและถวายขนมนั้นแด่องค์พระพิฆเณศมหาเทพ
ครั้นในเวลาเช้า ปรากฏเรื่องอันน่าอัศจรรย์ เมื่อนางตื่นนอนและจะเข้าไปกราบบูชา ณ องค์เทวรูปพระพิฆเณศที่นั้น นางก็ต้องตะลึงเมื่อพบว่า ขนมที่นางถวายนั้น หายไปแล้ว ไม่มีร่องรอยใดๆ ของก้อนขนมโมทะกะ ที่นางถวายเลย แต่พื้นที่รายรอบทั้งหมดนั้น กลับปรากฏขนมโมทะกะ จำนวนมาก มีรูปทรงลักษณะเดียวกันกับที่นางทำถวาย แตกต่างกันตรงที่ว่าบรรดาขนมที่กระจายอยู่เต็มพื้น เต็มบ้าน จนแทบจะหาที่เดินไม่ได้นั้น "เป็นทองคำแท้ ทุกก้อน"
สิ่งนี้นำความปลาบปลื้มแก่นางมาก นางได้ รับรู้แล้วว่า องค์พระพิฆเณศมีอยู่จริง และ ให้พรอันประเสริฐแก่นางผู้มีศรัทธา ไม่สั่นคลอนแก่นางแล้ว
ในเวลาต่อมา คนพี่ผู้ได้สามีมีทรัพย์มาก ก็มาเรียกหา เมื่อพบว่าคนน้องไม่ได้ออกไปทำการทำงาน ค้าขายแรงงานเหมือนแต่ก่อน คนน้องผู้ใจซื่อก็บอกกล่าวกับผู้พี่ตรงๆว่า เกิดพรอันประเสริฐอะไรกับตัวเอง
ผู้พี่ได้ยินดังนั้น ก็รีบกลับไปบ้านและเตรียมข้าวของวัตถุดิบที่จะทำขนมโมทะกะขึ้นมาถวายเหมือน กัน โดยนางได้ใช้ส่วนผสม เหมือนกับคนน้องทุกประการ แต่การใช้ส่วนผสมในลักษณะนี้ไม่ใช่เพราะตัวเองจน ไม่มีเงินทองที่จะซื้อหาวัตถุดิบอย่างดีเหมือนคนน้อง แต่เป็นเพราะความตระหนี่ถี่เหนียว และ ความคิดที่ว่า หากองค์คเณศมหาเทพ ไม่ได้รับของถวายของเธอจริง เธอคงไม่ต้องเสียทรัพย์สิ้นเปลืองมาก จากการทำขนมนี้ นางจึงใช้แป้ง น้ำตาล และวัตถุอื่นๆ อย่างเลวๆ แบบที่คนน้องทำ ทำเสร็จก็ถวายบูชาไปพอเป็นพิธี
ในเช้าวันรุ่งขึ้น อัศจรรย์ก็ปรากฏแก่นางอีก เมื่อโมทะกะที่นางถวายนั้น หายไปเช่นเดียวกับน้องสาวตน และมีโมทะกะใหม่มาแทนที่เช่นเดียวกับน้องสาวตนอีกเช่นกัน โมทะกะใหม่ทุกก้อนเป็นสีทองอร่าม ยังความปลาบปลื้มให้กับนางมาก นางรีบตรงเข้าไปกอบโมทะกะสีทองเหล่านั้นไว้ในอ้อมกอด
แต่แล้วนางก็ต้องโยนโมทะกะนั้นทุกก้อนกลับลงไปสู่พื้น เพราะโมทะกะสีทองทุกก่อนนั้น เป็นอุจจาระ ไปเสียทั้งหมด มีเพียงสีที่เป็นทองคำ แต่กลิ่นที่ขจรขจายออกมานั้น บ่งชัดว่านี้คือ อุจจาระแน่นอน
และตั้งแต่วันนั้นมา ความเสื่อมจากทรัพย์ก็บังเกิดมีกับบ้านของคนพี่ผู้ตระหนี่ ไร้ศรัทธา ความเจริญนั้นเล่าก็ได้ไปสร้างความสุข ความอยู่สบายแก่คนน้องผู้้ยาก มีศรัทธามากผู้นั้น
เรื่องเหล่านี้เป็นเรื่องเล่า เพื่อส่งเสริมเนื้อหาแห่ง โมทกะ
ผู้ทำดี หรือถวาย โดยไม่หวังสิ่งตอบแทนใดๆ ย่อมเป็นสุข
คิดแบบพื้นๆ หากคาดหวัง ย่อมมีเหตุให้ผิดหวัง ไม่ว่าจะเรื่องอะไรก็ตาม
ขนมลาดู หรือ ออกเสียงได้ว่า ลัดดู , ลาดูฟ เป็นขนมทรงกลม ทำจากแป้งถั่วชนิดพิเศษ
ในพระหัตถ์ขององค์พระพิฆเณศมหาเทพ จะทรงถือถ้วยขนมอยู่ตลอดเวลา ขนมนั้นคือ ขนมลาดู (ถ้ามียอดแหลม คือขนมโมทะกะ)
ลาดู เป็นขนมที่พระพิฆเณศ ทรงโปรดเป็นพิเศษเหนือกว่าของบูชาใดๆ จะเห็นได้จากรูปพระพิฆเณศในพระหัตถ์ของท่านจะถือถาดขนม "ลาดู" อยู่เสมอ พระองค์เองยังได้ประกาศไว้ด้วยว่า "ถ้าผู้ใดถวายบูชาสักการะพระองค์ด้วยขนมลาดู ความปราถนาใดๆ ของผู้นั้นจะสัมฤทธิ์ผล และผู้นั้นจะได้รับการประทานพรให้สำเร็จตามที่ปรารถนา"
ในบางเวป มีการโฆษณา , วิธีการบูชา รวมไปถึงเคล็ดลับการบูชา เพื่อขอพรเรื่องโชคลาภ
อันนี้ ใครสนใจแนวนี้ ก็ไปหาอ่านเอง เพราะผมเองไม่สนใจเรื่องพวกนี้ เปื้อนกับ Blog ผมเปล่าๆ
แล้วก็ออกจะเชื่อว่า งมงาย [ ก็เกือบจะรังเกียจ พวกโฆษณาชวนเชื่อ ]
ถ้ามุ่งกับผลจากการบูชามากเกินไป มันไม่ใช่การบูชาที่แท้จริง
ไม่ใช่ศรัทธา เป็นเพียงการร้องขอ จากความรู้สึกไม่พอของตัวเองต่างหาก