เซอร์ วิลเลียม วอลเลซ (Sir William Wallace)
(ประมาณ พ.ศ. 1813 - 23 สิงหาคม พ.ศ. 1848)
อัศวินและผู้รักชาติชาวสก็อต ผู้นำการต่อต้านการครอบครองสกอตแลนด์โดยอังกฤษระหว่างสงครามอิสรภาพของ สกอตแลนด์ เซอร์ วิลเลียม วอลเลซได้รับการยกย่องเป็นวีรบุรุษในประวัติศาสตร์ของสก็อตแลนด์
เซอร์ วิลเลียม วอลเลซ เป็นแรงดลใจในงานกวีนิพนธ์ชื่อ "The Acts and Deeds of Sir William Wallace, Knight of Elderslie" โดยนักดนตรีเร่รอนในคริสต์ศตวรรษที่ 15 ชื่อ "แฮรี่ผู้ตาบอด" (Blind Harry) ซึ่งภาพยนตร์ฮอลลีวูดเรื่อง Braveheart พ.ศ. 2538 นำมาทำบทภาพยนตร์
เมื่อใกล้เข้าสู่ภาวะสงครามเพื่อการแย่งชิงบรรลังก์จาก บรรดาเจ้านายฝ่าย ต่างๆ ผู้ที่คิดว่ามีสิทธิ์ เจ้านายที่มีเชื้อสายอยู่แถวหน้าๆ จึงไปทูลเชิญกษัตริย์เอ็ดเวิร์ดที่ 1 ให้มาเป็นผู้ไกล่เกลี่ย
แต่ก่อนที่จะทำหน้าที่นี้ พระเจ้าเอ็ดเวิร์ดกลับขอให้ทุกฝ่ายที่มีสิทธิ์ได้ยอมรับก่อนว่าพระองค์เป็น เจ้าที่อยู่เหนือสกอตแลนด์ ซึ่งแม้ตอนแรกจะมีการต่อต้านบ้าง แต่ในที่สุดผู้มีสิทธิ์มากสุดสองราย คือ จอห์น บาลลิออล และ โรเบิร์ต บรูซ ได้ตกลงยอมรับตามนั้น โดยต่อมาศาลสูงศักดินา (great fudal court) ได้ตัดสินเมื่อวันที่ 17 พฤศจิกายน พ.ศ. 1835 ให้จอห์น บาลลิออล เป็นผู้มีสิทธิ์ในราชบรรลังก์ แม้จะดูว่ายุติธรรมและถูกต้องตามกฎหมาย
แต่พระเจ้าเอ็ดเวิร์ด ที่ 1 ก็ได้ใช้อิทธิพลเข้าแทรกแซงทำให้การบริหารประเทศสก็อตแลนด์เป็นไปด้วยความ ยากลำบาก เป็นเหตุให้ พระเจ้าจอห์น บาลลิออล ยกเลิกคำมั่น
เมื่อเป็นดังนั้น พระเจ้าเอ็ดเวิร์ดฯ จึงยกทัพเข้าตี เบอร์วิก-อัพออน-ทวีด เมืองชายแดนของสกอตแลนด์และสังหารศัตรูของพระองค์ที่อยู่ที่นั่นจนสิ้น
ในเดือนเมษายนฝ่ายสก็อตแลนด์ก็แพ้สงคราม อังกฤษจึงบีบบังคับให้พระเจ้าจอห์น บาลลิออลสละราชสมบัติ พร้อมทั้งบังคับเจ้านายสก็อต 1,800 คนให้เข้าสวามิภักดิ์และได้กับนำเอา "หินลิขิตชะตา" (Stone of Destiny) ไปไว้ที่ลอนดอน
เซอร์ วิลเลียม วอลเลซ เสียชีวิตด้วยอายุเพียง 35 ปี
* พ.ศ. 2506 เซอร์ วิลเลียม วอลเลซ ได้รับการโหวตเป็นลำดับที่ 10 ของชาวสก็อตที่โด่งดังของโลกโดยผู้อ่านหนังสือพิมพ์ เดอะกลาสโกว์เฮอราลด์
* ลูกหลานผู้สืบเชื้อสายจากเซอร์ วิลเลียม วอลเลซที่เป็นที่รู้จักได้แก่นายพลเรือจัตวา โอลิเวอร์ ฮาซาร์ด เพอร์รี และนายพลเรือจัตวา แมททิว กัลเบรต เพอร์รี วีรบุรุษกองทัพเรือของสหรัฐฯ ผู้ใช้เรือรบปิดอ่าวบังคับให้ญี่ปุ่นเปิดประเทศเมื่อ พ.ศ. 2396